“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” เผยบริษัทตั้งใหม่เดือน ต.ค. 5,751 ราย ลดลง 7% แต่ทุนตั้งใหม่พุ่งเฉียดแสนล้าน จากการควบรวมกิจการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนทำธุรกิจรองรับโครงการในอีอีซี ส่วนบริษัทเลิกมี 2,116 ราย เพิ่มขึ้น 2% คาดแนวโน้มการตั้งบริษัทใหม่จะขยายตัวไปยังพื้นที่อีอีซีเพิ่มมากขึ้น รองรับการขยายตัวของการลงทุน มั่นใจตัวเลขตั้งใหม่ทั้งปีทำได้ 7.2-7.6 หมื่นราย
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจเดือน ต.ค. 2562 มีผู้ประกอบการยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,751 ราย เทียบกับเดือน ก.ย. 2562 ลดลง 17% และเทียบกับเดือน ต.ค. 2561 ลดลง 7% โดยธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ยังคงเป็นธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร แต่ที่น่าสนใจก็คือ เดือนนี้มีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นมากถึง 98,590 ล้านบาท เทียบกับเดือน ก.ย. 2562 เพิ่ม 248% และเทียบกับ ต.ค. 2561 เพิ่ม 393%
“เดือน ต.ค. แม้จะมีการจัดตั้งธุรกิจใหม่ลดลง แต่มูลค่าการลงทุนสูงถึง 98,509 ล้านบาท เพราะมีการจัดตั้งธุรกิจขนาดใหญ่ คือ มีการควบรวมกิจการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 12 รายเหลือรายเดียว มูลค่าทุน 71,665 ล้านบาท แปลงเป็นบริษัทมหาชน 1 ราย ทุน 1,281 ล้านบาท และตั้งบริษัทจำกัด 1 ราย ทุน 1,000 ล้านบาท และยังมีการตั้งธุรกิจสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตามนโยบายการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ของรัฐบาล คือ ธุรกิจการขนส่งทางรางและพัฒนาพื้นที่รองรับรถไฟความเร็วสูง ทุน 4,000 ล้านบาท และธุรกิจสิ่งอำนวยความสะดวกของท่าเรือประมาณ 3,600 ล้านบาท”
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการเดือน ต.ค. 2562 มีจำนวน 2,116 ราย เทียบกับ ก.ย. 2562 เพิ่มขึ้น 9% และเทียบกับ ต.ค. 2561 เพิ่มขึ้น 2% โดยธุรกิจเลิกกิจการ 3 อันดับแรกยังสอดคล้องกับธุรกิจจัดตั้งใหม่ คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร โดยมีทุนจดทะเบียนเลิก 8,050 ล้านบาท เมื่อเทียบกับก.ย. 2562 ลดลง 48% เทียบ ต.ค. 2561 ลดลง 20%
ทั้งนี้ ยอดรวมบริษัทตั้งใหม่ในช่วง 10 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ต.ค.) มีจำนวน 63,359 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 1% มีทุนจดทะเบียนรวม 284,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% ส่วนบริษัทเลิกกิจการ มีจำนวน 14,070 ราย เพิ่มขึ้น 2% ทุนจดทะเบียนเลิก 82,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%
นางโสรดากล่าวว่า แนวโน้มการจดทะเบียนตั้งใหม่ เริ่มขยายตัวไปยังพื้นที่ในอีอีซี ตามการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ทั้งการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบิน ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด รวมถึงการดึงดูดการลงทุนเข้ามาในอีอีซี ทำให้มีธุรกิจตั้งใหม่เพื่อรองรับเพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าตัวเลขตั้งบริษัทใหม่ทั้งปี จะอยู่ที่ 7.2-7.6 หมื่นราย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล การลดดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้กระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการดึงดูดการลงทุนในอีอีซี