xs
xsm
sm
md
lg

“บาฟส์” แตกไลน์รุกพลังงานทดแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บาฟส์เตรียมแตกไลน์ธุรกิจไปสู่พลังงานทดแทนและธุรกิจบริหารจัดการพลังงานเพิ่มเสริมรายได้ ตั้งเป้า 5 ปีข้างหน้ามีสัดส่วนธุรกิจอื่นถึง 40% ตั้งเป้าปีหน้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 1 โรง

หม่อมราชวงศ์ศุภดิศ ดิศกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบาฟส์ ผู้ให้บริการระบบเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วรวมทั้งกระแสลดโลกร้อน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากการเข้าประมูลการเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในสนามบินอื่นที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม โดยมองโอกาสการลงทุนธุรกิจอื่นๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วางเป้าหมายรายได้จากธุรกิจอื่นๆ จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 20% เพิ่มเป็น 40% ใน 5 ปีข้างหน้า และระยะยาว 10-15 ปีจะเพิ่มเป็น 50%

หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บาฟส์ กล่าวว่า ขณะนี้บาฟส์สนใจที่จะลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังลม รวมทั้งชีวมวล เบื้องต้นสนใจโรงไฟฟ้าชุมชน โดยจะดึงพาร์ตเนอร์ผู้ผลิตไฟฟ้าเข้าร่วมทุนด้วย, ธุรกิจบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System : EMS), ธุรกิจบริการดิจิทัลและซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่จ่ายไฟเข้าระบบ (COD) แล้วเพื่อรับรู้รายได้ทันที คาดว่าปีหน้าปิดดีลได้ 1 โรง และบาฟส์อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรรายใหญ่ 2 รายเพื่อเข้ามาทำธุรกิจบริหารจัดการพลังงาน

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/62 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามการขยายตัวของการท่องเที่ยวที่เป็นช่วงไฮซีซัน คาดว่าปริมาณการให้บริการน้ำมันอากาศยานรวมในช่วงไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 1,600 ล้านลิตร ทำให้ทั้งปี 2562 ปริมาณการให้บริการน้ำมันอากาศยานจะเติบโต 2.7% จากปีก่อนอยู่ที่ 6,003 ล้านลิตร และรายได้รวมเติบโต 5-6% จากปีก่อนอยู่ที่ 3,754 ล้านบาท

ส่วนในปีหน้า บริษัทตั้งเป้าปริมาณการให้บริการน้ำมันอากาศยานรวมเติบโต 4% ส่วนรายได้รวมตั้งเป้าเติบโต 7% เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดให้บริการระบบท่อส่งน้ำมันสายเหนือ ระยะที่ 1 (บางปะอิน-กำแพงเพชร-พิจิตร) ที่เปิดให้บริการกลางปี 2562 รวมถึงได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดให้บริการระบบท่อส่งน้ำมันสายเหนือ ระยะที่ 2 (พิจิตร-ลำปาง) ซึ่งคาดว่าเปิดให้บริการได้กลางปี 2563 โดยทั้ง 2 เฟสนั้นอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบาฟส์


กำลังโหลดความคิดเห็น