xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.เซ็นขายแอลเอ็นจีให้ “บิ๊กแก๊สฯ” เปิดตลาดโรงงานอุตฯ นอกแนวท่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปตท.เซ็นสัญญาขายก๊าซแอลเอ็นจีให้ “บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี” เป็นผู้ค้ากลุ่มแรกเพื่อนำก๊าซไปขายให้โรงงานอุตสาหกรรมนอกแนวท่อก๊าซฯ เพื่อเป็นทางเลือกการใช้พลังงานสะอาด เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าเพิ่มอีก 4-5 รายที่สนใจซื้อแอลเอ็นจีเพื่อขายต่อโรงงานอีกทอด



วันนี้ (6 มี.ค.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) กับบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (BGT) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (PSTC) เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมนอกแนวท่อก๊าซฯ เพื่อได้ใช้แอลเอ็นจี  

นายวุฒิกร สติฐิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่จัดหาและตลาดก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงนามสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ลงนามสัญญาขายแอลเอ็นจีให้ผู้ค้าเอกชนเพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้โรงงานอุตสาหกรรมนอกแนวท่อก๊าซฯ ช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้ราว 3-5%
           
แนวโน้มความต้องการใช้แอลเอ็นจีในภาคอุตสาหกรรมจะเติบโตสูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดย ปตท.อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีก 4-5 รายที่สนใจทำสัญญาซื้อแอลเอ็นจีเพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้โรงงานอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับบิ๊กแก๊สฯ ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีความชัดเจน   
             
ในปีนี้ ปตท.มีแผนนำเข้าแอลเอ็นจีประมาณ 5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนนำเข้าใกล้เคียง 4 ล้านตัน โดยนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าราว 60-70% ขายให้กับภาคอุตสาหกรรมราว 20% และที่เหลือราว 10% ใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง ซึ่งแนวโน้มราคาแอลเอ็นจีในปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาหรือราว 7-8 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียูตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ

นายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PSTC ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ถือหุ้น 51% ใน BGT กล่าวว่า ภายใต้การลงนามครั้งนี้ สัญญาซื้อขายก๊าซจะมีอายุ 10 ปี และต่ออายุได้อีก 10 ปี ซึ่งในล็อตแรกปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะซื้อก๊าซแอลเอ็นจีจาก ปตท.จำนวน 1 หมื่นตัน คิดเป็นรายได้จากการขายราว 200 ล้านบาท โดยจะเริ่มรับก๊าซฯ ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้

ปี 2562 บริษัทตั้งเป้าปริมาณการขายก๊าซแอลเอ็นจีจะเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า หรือคิดเป็น 3-4 หมื่นตัน เนื่องจากยังมีกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่นอกแนวท่อก๊าซจำนวนมากที่มีความต้องการใช้แอลเอ็นจี จากปัจจุบันที่มีลูกค้าแล้ว 6-7 ราย
           
นายภาณุกล่าวต่อไปว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 500-800 ล้านบาท สำหรับธุรกิจออกแบบและจำหน่ายติดตั้งระบบสำรองไฟฟ้า ธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้า และธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ แอลเอ็นจี และแอลพีจี 

ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันเส้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก จ.สระบุรี-ขอนแก่น ภายใต้บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ TPN ซึ่ง BGI ถือหุ้นอยู่ 100% ยังอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแอดล้อม (อีไอเอ) และจะเริ่มการก่อสร้างได้ต้นปีหน้า ใช้เงินลงทุนราว 10,000 ล้านบาท แล้วเสร็จปี 2564 โดยขณะนี้ได้มีการเจรจาหาพันธมิตรเพื่อเข้าร่วมถือหุ้นในโครงการดังกล่าวด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3 นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น