xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จัดแมตชิ่งซื้อสินค้าเกษตร ปั๊มยอดขายได้กว่า 7,000 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์” เป็นประธานจัดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป สร้างยอดซื้อขายเบื้องต้นราว 7,000 ล้านบาท เตรียมแผนจัดแมตชิ่งอีกช่วง ก.พ. 63 เน้นผลไม้ พร้อมเดินหน้าทำหน้าที่หัวหน้าเซลส์แมนลุยขายสินค้าต่อ เป้าถัดไปตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และรัสเซีย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในงานจับคู่ธุรกิจสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปประจำปีงบประมาณ 2563 จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ว่า โครงการนี้กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีเจรจาการค้าและเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้กับสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปรวม 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว ผลไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพ โดยเบื้องต้นมีมูลค่าการเจรจาจากการลงนามใน MOU และการเจรจาจับคู่ธุรกิจคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท แต่ตัวเลขยังไม่จบ เพราะยังมีการเจรจากันต่อ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้อีก

สำหรับรายละเอียด แยกเป็นมูลค่าการเจรจาจากการลงนาม MOU ระหว่างบริษัทไทยกับคู่ค้าต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ จีน และอินเดีย จำนวน 14 ฉบับ มูลค่าการซื้อขายคิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 138.69 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,160 ล้านบาท ประกอบด้วยสินค้าข้าว ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอม ข้าวขาว และข้าวเหนียว ปริมาณรวม 145,000 ตัน จะซื้อขายภายใน 1 ปี, สินค้าผลไม้อบแห้ง มะพร้าวอบแห้ง มะม่วงอบแห้ง 50 ตู้ ภายใน 5 ปี, สินค้ามะขามหวาน 20 ตู้ ภายใน 1 ปี, การลงนาม MOU ข้อตกลงซื้อขายสินค้าเกษตรระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับบริษัท Supermarket Grocery Supplies Pvt. Ltd. ซึ่งเป็นเว็บไซต์ออนไลน์ Bigbasket.com ของอินเดีย มูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 150 ล้านบาท ภายใน 2 ปี และมูลค่าคาดการณ์การค้าภายในงานเจรจาจับคู่ธุรกิจคิดเป็นจำนวน 94 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,820 ล้านบาท

“ถือเป็นวันพิเศษที่กระทรวงพาณิชย์ได้จัดให้มีการพบปะกันระหว่างผู้ส่งออกของไทยกับผู้นำเข้าจากประเทศต่างๆ ที่มาจากทั้งประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เอเชีย ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป อเมริกา และแอฟริกา รวมทั้งสิ้น 176 บริษัท โดยมีบริษัทจากประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกมารวมกันอยู่ในที่นี้รวมทั้งสิ้น 190 บริษัท เพื่อเจรจาทำธุรกิจกัน ก่อให้เกิดการซื้อขายระหว่างกันที่สามารถคำนวณเป็นตัวเลขส่งออกของประเทศไทยได้ในทันที และขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับผู้ส่งออกไทยที่จะช่วยกันทำตัวเลขการส่งออกให้กับประเทศ” นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับแผนผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรในระยะต่อไป จะจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจอีกครั้งในช่วงเดือน ก.พ. 2563 แต่เน้นเรื่องผลไม้สด เพราะเป็นช่วงที่ผลไม้ออกมาก โดยจะให้เชิญลูกค้าจากหลายประเทศในโลกมาซื้อผลไม้สดของไทย โดยเฉพาะตลาดจีนที่จะเชิญมาซื้อผลไม้ รวมทั้งในระหว่างนี้ จะเร่งดำเนินการเจาะตลาดจีนเป็นรายมณฑล

ส่วนการขยายตลาดส่งออกในประเทศเป้าหมาย 10 ประเทศที่เคยตั้งไว้นั้น กำลังเตรียมการไปตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ และรัสเซีย เป็นต้น และจะไปซ้ำที่อินเดีย เพราะเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ มีประชากรมากเป็นพันล้านคน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ทำหน้าที่เซลส์แมนนำคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางไปขยายตลาดที่อินเดีย จีน สหรัฐฯ ตุรกี และเยอรมนีมาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น