“จุรินทร์” สวมบทหัวหน้าทีมเซลส์แมนลุยต่อ นำคณะผู้แทนการค้าไทยขายสินค้าที่เยอรมนี เซ็น MOU ขายข้าว เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ยาง ได้ยอดรวม 2,400 ล้านบาท เผยมีแผนเร่งขยายตลาดยุโรปเตรียมเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรปให้จบโดยเร็ว พร้อมผลักดันสินค้าและบริการเป้าหมายเจาะตลาด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางขายสินค้าที่เยอรมนี ว่า การเดินทางไปในครั้งนี้ภาคเอกชนไทยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้ประกอบการในเยอรมนี เพื่อซื้อขายข้าวสารบรรจุถุงปริมาณ 6,000 ตัน มูลค่า 210 ล้านบาท เครื่องดื่ม 40 ล้านบาท และมีการตกลงซื้อขายผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์ 2,000 ล้านบาท และสินค้าอื่นๆ ในงาน MEDICA 2019 อีก 150 ล้านบาท รวมทำยอดขายได้ 2,400 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายยางและผลิตภัณฑ์น่าจะทำได้เพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กำลังเจรจากับผู้นำเข้าของเยอรมนี เชื่อว่าจะขายได้อีกเยอะ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ถุงมือยาง หมอนยางพารา ที่ไม่ใช่แค่ในตลาดยุโรปที่มีโอกาส แต่ในตลาดจีนก็มีโอกาสอีกมาก ซึ่งกำลังทำแผนเจาะขยายตลาดจีนอีกรอบ เพราะหากคนจีนซื้อแค่คนละใบก็ทำยอดขายได้อีกมหาศาล
นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับการเปิดตลาดในเยอรมนีและสหภาพยุโรป (อียู) ได้มีการเตรียมการในการบุกตลาดสหภาพยุโรปในหลายเรื่องด้วยกัน คือ เริ่มต้นที่จะทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-อียู ซึ่งได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเริ่มต้นแล้วและจะเร่งรัดการเจรจาให้มีความคืบหน้าเร็วที่สุด เพราะจะมีผลช่วยให้การค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพราะภาษีจะลดลง เช่น ถุงมือยาง ปัจจุบันภาษี 2.3% แต่มาเลเซียไม่เสีย จากการได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) แต่ถ้าทำเอฟทีเอ ภาษีจะไม่มี สินค้าไทยจะแข่งขันได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ได้ตั้งเป้าจะเข้ามาขยายตลาดในเยอรมนีและสหภาพยุโรป โดยเน้นเป็นรายสินค้าและบริการเป้าหมาย โดยเฉพาะข้าวออร์แกนิก ซึ่งเป็นที่นิยม ไบโอพลาสติก อาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง เช่น ไก่แช่แข็ง เป็นต้น รวมทั้งในเรื่องของ startup ที่ไทยมีศักยภาพ เช่น ในเรื่องของแอนิเมชัน ภาพยนตร์ รวมถึงร้านอาหารไทย สปา ที่เป็นธุรกิจบริการที่มีอนาคต
