อ่างทอง - คนร้ายหลอกขายข้าวสารยายวัย 75 ปี แล้วขโมยเงินยายวัย 84 ปี สองพี่น้องที่อยู่บ้านติดกัน ภัยสังคมที่ขับรถตระเวนตามหมู่บ้านดูที่มีคนแก่เพียงลำพัง หลอกขายข้าวสารขาดน้ำหนัก และอาศัยช่วงเผลอขโมยเงิน
วันนี้ (16 พ.ย.) ร.ต.อ.รัชกิจ เค้าแคน รองสารวัตรสอบสวน สภ.รำมะสัก ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชาย 1 หญิง 1 หลอกขายข้าวสาร และลักทรัพย์เป็นเงินสด บริเวณบ้านเลขที่ 80 ม.3 ต.ยางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
หลังรับแจ้งเหตุจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ นางเฟี้ยม กลัดดี อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา มีชายหญิงวัยกลางคน โดยผู้ชายมีรอยสักที่ต้นแขน ทั้งคู่ลักษณะเหมือนเป็นสามีภรรยากัน ได้ขับรถยนต์ กระบะสีดำ มาจอดบริเวณริมถนน จากนั้นผู้หญิงลงจากรถและเข้ามาพูดคุยกับตน พร้อมเสนอขายข้าวสารในราคาถูก ตอนแรกคิดกระสอบละ 1,100 บาท (ปกติ 1 กระสอบจะมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม) ตนไม่สนใจ ทางคนร้ายจึงเสนอว่า ถ้าเอา 3 กระสอบ คิดแค่กระสอบละ 900 บาท
ตนเห็นว่าราคามันถูกกว่าท้องตลาดจึงสนใจและตกลงซื้อขายกัน แต่ในตอนนั้นตนไม่มีเงินติดตัว จึงเดินไปยืมเงินพี่สาวซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน จำนวน 3,000 บาท ซึ่งคนร้ายผู้หญิงเดินตามตนไปด้วย พอไปถึงบ้านพี่สาว น.ส.รำพัน ลำไย อายุ 84 ปี บ้านเลขที่ 106 ม.3 ต.ยางซ้าย ได้เดินไปหยิบห่อเงินพร้อมหยิบเงินให้ตน จำนวน 3,000 บาท และห่อเงินส่วนที่เหลือ จำนวน 4,000 บาท ซุกไว้ใต้ที่นอน
หลังจากนั้น ตนก็จ่ายเงินให้คนร้ายไป แต่มาทราบภายหลังว่า คนร้ายได้ย้อนกลับมาลักเงินที่พี่สาวซุกไว้ใต้ที่นอนก่อนหลบหนีไป จากนั้นตนรู้สึกเอะใจจึงนำข้าวสารที่ซื้อมาชั่งน้ำหนัก พบว่า ข้าวสารมีน้ำหนักเพียงแค่กระสอบละ 30 กิโล ขาดจากน้ำหนักปกติถึง 15 กิโลกรัม จึงรู้ว่าถูกหลอก
ทางด้าน คุณยายรำพัน วัย 84 ปี ที่ถูกขโมยเงินไป 4,000 บาท กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่หยิบเงินให้น้องสาวไปแล้ว เงินที่เหลือก็ห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าไว้เหมือนเดิมพร้อมกับซุกไว้ใต้ที่นอน และคนร้ายที่เป็นผู้หญิงเดินย้อนกลับมาขอน้ำกิน ยายก็หยิบให้ จากนั้นคนร้ายก็นำแก้วไปวางไว้ข้างที่นอนและเดินออกไป และเมื่อยายมาดูเงินที่ซุกไว้ก็หาไม่เจอ จึงรีบตะโกนเรียกผู้ใหญ่บ้านที่กำลังซ่อมรถอยู่ข้างบ้านพร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นายอานนท์ ตาระกา อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 กล่าวว่า สังเกตเห็นว่ามีคนแปลกหน้าขับรถยนต์กระบะมาจอดไว้ที่ริมถนนใกล้บ้านยายทั้ง 2 คน และเกรงว่าจะมาก่อเหตุไม่ดีเลยถ่ายรูปรถยนต์คันต้องสงสัยไว้ เป็นรถยนต์โตโยต้าวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ฒฉ 4664 กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นได้ส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุหรือไม่
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุแจ้งสกัดรถยนต์คันต้องสงสัย แต่ยังไม่พบวี่แวว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการติดตามหาพยานหลักหลักฐานและรถยนต์ผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป