พพ.เร่งปรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกปี 2561-2580 (AEDP) ฉบับใหม่ หนุนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลมเร็วขึ้น และปรับโรงไฟฟ้าประชารัฐภาคใต้เป็นแผนโรงไฟฟ้าชุมชน แก้ปัญหาความล่าช้า
นายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า พพ.กำลังพิจารณาปรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ฉบับใหม่ ตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศ (PDP2018) ปี 2561-2580 เพื่อเสนอนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน รวมทั้งเร่งการรับซื้อพลังงานทดแทนหลายเชื้อเพลิงให้เร็วขึ้นจากช่วง 7 ปีแรกของแผนพีดีพีไม่มีการรับซื้อแล้ว อาทิ พลังงานลม จะเร่งรัดซื้อให้เร็วขึ้นจากเดิมรับซื้อปลายแผนฯ
ส่วนโรงไฟฟ้าประชารัฐในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 120 เมกะวัตต์ที่มีความล่าช้า หลังติดขัดเรื่องการให้หน่วยงานรัฐร่วมทุน อาจติดขัดตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ของภาครัฐ ก็อาจจะปรับมาเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่ให้ชุมชนดำเนินการเอง หรือร่วมมือกับเอกชนและภาครัฐก็จะทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็ว
ส่วนโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์จะเร่งได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยที่จะเสนอโครงการได้เร็วมากน้อยเพียงใด
นายยงยุทธกล่าวว่า กรอบการรับซื้อโรงไฟฟ้าชุมชนและอัตราค่าไฟฟ้าสนับสนุนในรูปแบบ FIT ทาง พพ.จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งเบื้องต้นอัตรา FIT จะใกล้เคียงกับอัตราที่ประกาศใช้ในปัจจุบัน โดยรูปแบบจะเป็นโรงไฟฟ้าภาคเอกชนขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) ไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ โดยส่วนตัวเห็นว่าหากพื้นที่ใดมีเอกชนเสนอร่วมกับชุมชนหลายรายก็น่าจะใช้วิธีเสนอราคาแข่งขัน (Bidding) ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
เมื่อเร็วๆ นี้ (8 พ.ย.) พันธมิตรกิจการร่วมค้า ประกอบด้วย บริษัท บางกอกอินดัสเตรียลบอยเลอร์ จำกัด, บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ดับเบิ้ลไนน์ เพาเวอร์ จำกัด ได้ร่วมพิธีลงนามสัญญาการจ้างระบบวิศวกรรม จัดซื้อจัดจ้าง และก่อสร้าง (EPC) โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐบันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา กำลังการผลิตไฟฟ้า 3 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐแม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 3 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 500 ล้านบาท คาดพร้อมจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ พ.ย. 2563