“สนธิรัตน์” รุดมอบนโยบาย สนพ.-พพ. หวังขับเคลื่อนนโยบาย Energy for All ดันเศรษฐกิจฐานราก ขีดเส้น 2 เดือนสรุปเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ ป้อนไฟปี 65 โรงไฟฟ้าชุมชนคลอดเกณฑ์ พ.ย.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมการดำเนินงานและมอบนโยบายให้แก่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) และสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เมื่อ 31 ต.ค.ว่า ได้เร่งรัดให้ พพ.ปรับปรุงแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ปี 2561-2580 (AEDP 2018) โดยมุ่งเน้นตอบโจทย์นโยบายพลังงานเพื่อทุกคน (Energy for All) กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะโรงไฟฟ้าชุมชน พร้อมเร่งรัดให้กำหนดหลักเกณฑ์การส่งเสริมและรับซื้อไฟฟ้าขยะชุมชนเพื่อการบริหารจัดการขยะ 400 เมกะวัตต์ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน
“โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชนจะดำเนินงานร่วมกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นเจ้าภาพหลัก บ้างแล้วที่จะคงสัดส่วน 400 เมกะวัตต์ ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (พีดีพี 2018) และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบได้ในปี 2565 ซึ่ง อีก 2 เดือนจะออกหลักเกณฑ์ได้” นายสนธิรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ พพ.จากนี้ไปจะต้องเน้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจและเชื่อมโยงการทำงานกับหน่วยงงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กองทุนหมู่บ้าน และชุมชน เป็นต้น เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสร้างรายได้ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมร่วมเร่งสรุปวางเกณฑ์ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนภายใน พ.ย.เพื่อประกาศเชิญชวนการลงทุนต่อไป
ส่วนการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันที่มอบหมายให้ สนพ.ไปพิจาณานั้นมีเป้าหมายหลัก ไม่ได้หวังลดราคาน้ำมันของประเทศแต่ให้ดูถึงการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศว่าจะปรับอย่างไรให้ต้นทุนเหมาะสมแข่งขันได้ ซึ่ง สนพ.เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก รับผิดชอบในการปรับปรุงแผนพีดีพี 2018 ดูแลกองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (กองทุนอนุรักษ์ฯ) เป็นต้น โดยจะต้องจัดทำแผนขับเคลื่อนงานในอนาคตให้ชัดเจน เพื่อเตรียมพร้อมต่อการนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ต่อไป