ผู้จัดการรายวัน 360 - ฟันธงปี 63 สื่อทีวีร่วงอีก 1-2% เหลือ 6.4-6.5 หมื่นล้านบาท เหตุสื่อโฆษณา ตปท.ดูดเงิน "ปฐมพงศ์" CEO คนใหม่ของโมโน ร้อนวิชาสู่เป้าหมาย 3 ปี 5,000 ล้านบาท
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 คาดการณ์ว่าภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาบนสื่อทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 64,000-65,000 ล้านบาท จากปี 2562 นี้ที่นีลเส็นคาดว่าจะปิดที่ 66,892 ล้านบาท หรือลดลงอีก 1-2% ส่วนสำคัญมาจากดิสรัปชันของสื่อออนไลน์ต่างประเทศ (เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป) ที่มาแย่งงบโฆษณาไป โดยที่ไทยยังปกป้องได้ไม่ดี
อีกทั้งสื่อเหล่านี้ไม่ต้องเสียภาษีตามความถูกต้อง ทำให้สื่อทีวีของไทยมีต้นทุนภาษีที่สูงกว่า ถ้าเราปกป้องไว้ได้ เรตติ้งทีวีก็จะไม่ไหลไปสื่อออนไลน์เหล่านี้มากนัก
นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจก็มีส่วนสำคัญ รวมถึงพฤติกรรมคนเสพสื่อทีวีจะน้อยลงหรือเพิ่มขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีผลให้เอเยนซีวางแผนใช้เงินซื้อโฆษณาบนสื่อทีวีด้วย แม้ว่าในปีหน้าหลายๆ ช่องจะมีการปรับราคาโฆษณาขึ้น แต่ช่วยได้แค่ให้มีรายได้ทรงตัวเท่านั้น แต่อานิสงส์จะไปตกที่กลุ่มทีวีชอปปิ้ง ปีหน้าจะยังคงเติบโต และบางช่องจะเปิดรับทีวีโฮมชอปปิ้งทดแทนรายได้โฆษณาที่หายไปมากขึ้น
ในส่วนของกลุ่มโมโน หลังจากที่ตนขึ้นมารับตำแหน่งประธานกรรมการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้วางภารกิจไว้ 4 ด้าน คือ 1. ใช้ประโยชน์จาก Cross-Screen รวมถึงกิจกรรมให้ดียิ่งขึ้น 2. นำพาเรตติ้งช่องโมโน 29 ขึ้นไปขายโฆษณาให้ตรงกับความเป็นจริง จากปัจจุบันราคาโฆษณาช่องโมโน 29 ต่ำกว่าราคาจริง 63% เมื่อเทียบกับเรตติ้งที่เกิดขึ้นจริง หรือปีนี้ควรที่จะมีรายได้ที่ 7,024 ล้านบาท ให้สมกับเป็นที่ 3 ของสื่อทีวี ที่มีแชร์อยู่ 10.5% แต่รายได้จริงกลับน้อยกว่านั้นเกือบ 3 เท่าตัว
3. การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งให้กับคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นมา เน้นรูปแบบเป็นแอ็กชัน, แฟนตาซี, ไซไฟ เป็นหลัก โดยในภาพรวมในปี 63 ยังคงใช้งบด้านคอนเทนต์รวมที่ 1,000-1,500 ล้านบาท และ 4. ในอีก 3 ปีจากนี้รายได้กลุ่มโมโนจะต้องทำให้ได้ที่ 5,000 ล้านบาท มาจากโมโน 29 เป็นหลัก ตามมาด้วย โมโนแม็กซ์, 3BB TV และสปอนเซอร์ เป็นต้น
นายปฐมพงศ์กล่าวต่อว่า จะดำเนินงานภายใต้ 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. ด้านสกรีน ประกอบด้วย สื่อทีวี คือช่อง โมโน 29, สื่อออนไลน์ คือ ช่องโมโนแม็กซ์ และ IPTV จาก 3BBTV ที่จะเน้นในเรื่อง จาก Cross-Screen มีการขายโฆษณาพ่วงกัน ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อป้องกันการถูกดิสรัปชัน เพราะโมโนมีครบทุกสกรีนให้ผู้ชมเลือกรับชม 2. ด้านคอนเทนต์ มีทั้งคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟจาก 4 ค่ายหนัง คือ วอลท์ ดิสนีย์, พาราเม้าท์ พิคเจอร์ส, วอร์นเนอร์ บราเดอร์ส และยูนิเวอร์แซล และโลคัลคอนเทนต์ จากการจับมือพันธมิตรผลิตหนัง 12 เรื่อง และซีรีส์ 6 เรื่อง รวมถึงกีฬา ข่าว และบันเทิง ที่จะเข้ามาเติมเต็ม
ในปี 2563 ช่องโมโน 29 จะปรับราคาโฆษณาขึ้นให้ตรงกับเรตติ้งที่เกิดขึ้นจริง หรือปรับขึ้นกว่า 2-3 เท่าตัว จากปัจจุบันช่องโมโน 29 มีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 หมื่นบาทต่อนาที เพิ่มเป็น 8 หมื่นบาทต่อนาที โดยเฉพาะในช่วงไพรม์ไทม์ตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. จะขึ้นราคาเป็น 3 แสนบาทต่อนาที จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 แสนบาทต่อนาที
ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 3,500 ล้านบาท จากปีก่อนปิดที่ 2,500 ล้านบาท โดย 9 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 1,700 ล้านบาท มาจากช่องโมโน 29 กว่า 80% รองลงมาคือ สปอนเซอร์ชิป 7.5% โมโนแม็กซ์ 6.1% ทีวีชอปปิ้ง 3.5% และรายได้จากภาพยนตร์ 2.2% ตามลำดับ