xs
xsm
sm
md
lg

“เมเจอร์”ทำหนังไทยเจาะตลาดจีน อีก5ปีสัดส่วน15%- ดันสู่Tollywood

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน360 – เมเจอร์ฯปูทางมุ่ง3ส่วนหลัก คือ Major 5.0, ขยายโรงหนังเป็น 1,200 โรงใน77 จังหวัด และยกระดับหนังไทยได้โกอินเตอร์ เผยหนังไทยสัดส่วนโตมาก พร้อมลุยคอนเทนต์ในตลาดจีน เร่งสร้างและดันหนังไทยเข้าทุกช่องทาง

นายวิชา พูลวรลักษณ์
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของเมเจอร์ใน5ปีจากนี้ หรือภายในปี2025 (พ.ศ. 2568) จะเน้นใน 3 ส่วนหลัก คือ 1.วิสัยทัศน์ Major 5.0 ด้วยเน้นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเติมเต็มในการให้บริการ เช่น E Ticket, Mobile Ticketing รวมถึงจับมือกับสตาร์ทอัพเพื่อพัฒนาบริการใหม่ๆ

2.ขยายโรงภาพยนตร์เพิ่มทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ CLMV รวม 1,200 โรง ให้ครอบคลุม 77 จังหวัด และ 3.ยกระดับหนังไทยให้มีมาตรฐานเป็น Tollywood (Thailand +Hollywood) ด้วยสัดส่วนรายได้หนังไทยมากกว่า 50% ของรายได้รวมตลาดหนังในไทย และผลักดันหนังไทยออกขายในต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในจีน


"ปี2562นี้เป็นปีที่พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่า โรงหนังเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ถูกดิสรัปชั่นจากออนไลน์หรือสตรีมมิ่ง และเน็ตฟลิกซ์ไม่ได้ส่งผลให้ยอดการขายตั๋วหนังลดลง เพราะ9เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมการจำหน่ายตั๋วหนังในไทยโตขึ้นประมาณ 15% เฉพาะของเมเจอร์มีรายได้จากการขายตั๋วหนังถึง 4,392 ล้านบาท จบสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท หรือในภาพรวมของตลาดน่าจะปิดที่ 9,000 ล้านบาทโต 15% ส่วนสำคัญที่ทำให้โรงหนังยังโตได้ เกิดจากคอนเทนต์เป็นหลัก"
นายวิชา กล่าวต่อว่า ดังนั้นคอนเทนต์จึงสำคัญที่สุดในธุรกิจโรงภาพยนตร์ ซึ่งปีนี้คาดว่าภาพรวมการขายตั๋วหนังน่าจะปิดที่ 40 ล้านใบ โดย9เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้วกว่า 38 ล้านใบ และสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายตั๋วหนังนี้ มาจากหนังไทยถึง 26% และต่างประเทศ 75% ซึ่งแปลกที่ปีนี้หนังไทยไม่ค่อยมีฉาย แต่มีส่วนแบ่งดีขึ้น เนื่องจากการขยายโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัดเข้าถึงผู้ชมมากขึ้น ส่งผลให้เมเจอร์พร้อมใช้งบการลงทุนอีกราว 180-200 ล้านบาท ในปี2563 ในการเพิ่มจำนวนโรงภาพยนตร์อีก 30โรง เฉลี่ย1โรง ใช้งบ 6 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มจำนวนหนังไทยให้มากขึ้น โดยอยากเห็นหนังไทยเข้าฉายปีละไม่ต่ำกว่า52เรื่อง เฉลี่ยสัปดาห์ละ1เรื่อง ซึ่งทางเมเจอร์เองปัจจุบันเป็นผู้เล่นหลักในการลงทุนผลิตหนังไทย ภายใต้โมเดลการจับมือกับพันธมิตร โดยปีนี้มีหนังของกลุ่มเมเจอร์เข้าฉายกว่า 15 เรื่อง ส่วนในปีหน้าเมเจอร์ยังได้จับมือกับพาร์ทเนอร์จีนร่วมทุนทำหนังร่วมกัน เพื่อต้องการเข้าไปทำตลาดในจีนด้วย ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้หนังไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้ดีขึ้น


ทั้งนี้ในแง่ภาพรวมรายได้ของเมเจอร์ ปี2562นี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10-15% ขณะที่ในปี2568 สัดส่วนรายได้อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง จากปีนี้รายได้จากการทำหนัง อยู่ที่ 600-800 ล้านบาท แต่ในอีก5ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของรายได้รวม เพราะรายได้จากการทำหนังมาจากหลายช่องทาง เช่น ส่งออก, ออนไลน์ และสตรีมมิ่ง เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ปีนี้เมเจอร์ครบรอบ 25ปี จึงได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อขอบคุณลูกค้า โดยตลอดวันที่ 25 พ.ย. ที่จะถึงนี้ จะจำหน่ายตั๋วหนังในราคา 25 บาท สำหรับดูหนังที่นั่งปกติ และที่นั่งฮันนีมูน ทุกเรื่อง ทุกรอบ ทุกสาขา ทั่วประเทศ โดยไม่จำกัดจำนวนสิทธ์ในการซื้อ ไม่ว่าจะซื้อผ่านช่องใดก็ตาม นอกจากนี้ในส่วนของบลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล และซับซีโร่ ไอซ์สเก็ต คลับ ทุกสาขา สามารถโยนโบว์ลิ่งได้เพียงเกมละ 25บาท, เล่นไอซ์สเก็ต 90 นาที 25บาท, เครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์ แก้วละ 25 บาท และร้องคาราโอเกะ ชั่วโมงละ 125 บาท.


กำลังโหลดความคิดเห็น