“นกแอร์” ตั้งเป้าปี 63 มีผู้โดยสารแตะ 10 ล้านคน รุกธุรกิจเสริมเพิ่มสัดส่วนรายได้ ขณะที่เพิ่มช่องทางขายตั๋ว ยกระดับบริการ Premium Seat ให้ลูกค้าเลือก ปรับปรุงแผนฟื้นฟูชงบอร์ด มั่นใจปีหน้าหยุดขาดทุน
นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ทุกๆ ช่องทาง นอกเหนือจากรายได้จากตั๋วโดยสาร โดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากการขายตั๋ว 88% รายได้อื่นๆ อีก 12% เช่น บริการขนส่งพัสดุและสินค้า (คาร์โก้) ขนส่งสัมภาระใต้ท้องเครื่อง และ Premium Seat เป็นต้น โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี (ปี 63-65) จะเพิ่มสัดส่วนรายได้อื่นๆ เป็น 15%, 17% และ 20% ตามลำดับ
ในปลายเดือน พ.ย. 62 บริษัทฯ จะรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 2 ลำ (เช่า) ทำให้มีฝูงบิน 24 ลำ ได้แก่ โบอิ้ง 737-800 จำนวน 16 ลำ เครื่องบินใบพัด Q-400 จำนวน 8 ลำ ทั้งนี้ บริษัทจะเริ่มทำการบินในเส้นทางฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.นี้อีกด้วย
และในช่วงเดือน ส.ค. และ ต.ค. ปี 63 จะรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 (เช่า) เพิ่มอีก 2 ลำ โดยมีแผนจะเปิดเส้นทางบินญี่ปุ่นและอินเดียเพิ่มในเมืองรอง
นายวุฒิภูมิกล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศจาก 20% เป็น 30% เพื่อเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบิน (Utilization) เป็น 12 ชม./ลำ/วัน จาก 9 ชม./ลำ/วัน ซึ่งการบินระยะทางไกลขึ้น จะช่วยลดต้นทุนลงได้
สำหรับแนวทางการเพิ่มรายได้จากการขายตั๋วนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในธุรกิจโรงแรม 2 รายเพื่อร่วมกันจัดทำแพกเกจเดินทาง ซึ่งจะรวมในค่าตั๋วโดยสาร คาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 1/63 นอกจากนี้ จะเพิ่มช่องทางในการซื้อตั๋วโดยสารที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยจะร่วมมือกับร้านหนังสือซีเอ็ดที่มี 350 สาขาทั่วประเทศ เฟสแรกจะเปิดขาย 10 สาขาในกรุงเทพฯ ก่อน ขณะนี้กำลังวางระบบ คาดว่าเริ่มได้ในไตรมาส 1/63 โดยครอบครัว “จุฬางกูร” ถือหุ้นในซีเอ็ดสัดส่วน 48%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 63 ธุรกิจสายการบินจะมีความรุนแรง เนื่องจากทุกสายการบินยังมีแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบินเข้ามาจำนวนมากกว่าความต้องการเดินทาง ซึ่งบริษัทฯ จะไม่แข่งขันราคามากนัก แต่จะใช้วิธีการปรับปรุงเพิ่มบริการให้มากขึ้น และยกระดับในบางที่นั่งเป็น Premium Budget Airline
สำหรับในปี 63 คาดว่าอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ยจะอยู่ที่ 85-87% จากปี 62 คาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 85% โดยในช่วงไฮซีซันจะอยู่ที่ 90-93% ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารปี 63 เพิ่มเป็น 10 ล้านคน จาก 7-9 ล้านคนในปี 62
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเสนอแผนธุรกิจต่อคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ในต้นเดือน ธ.ค.นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เสนอบอร์ดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่บอร์ดให้กลับมาทบทวนเนื่องจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันเปลี่ยนไป และเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น