“จุรินทร์” จับมือ “เฉลิมชัย” คิกออฟจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางงวดแรกให้เกษตรกรทั่วประเทศ ลั่นเป็นวันประวัติศาสตร์ที่มีการเพิ่มรายได้ให้ชาวสวนยาง และจะดำเนินการตลอดอายุรัฐบาล เผยยางแผนรับส่วนต่างกว่า 1 หมื่นบาท ยางสด 9.6 พันบาท ย้างก้อนถ้วน 6.8 พันบาท ย้ำจะเดินหน้าเพิ่มรายได้ให้ชาวสวน ทั้งหนุนปลูกพืชแซม ดึงโรงงานยางเข้ามาลงทุน เร่งใช้ยางทำถนน และผลักดันส่งออก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานคิกออฟการจ่ายเงินส่วนต่างในโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ว่าถือเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งของประเทศไทย เพราะตั้งแต่มีประเทศไทยมายังไม่เคยมีวันนี้มาก่อน โดยเป็นวันแรกที่มีการจ่ายเงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรตามนโยบายประกันรายได้ของรัฐบาล ทำให้เกษตรกรมีรายได้ 2 ทาง จากการขายยางตามราคาตลาด และรายได้ส่วนต่างที่รัฐบาลจะจ่ายให้ โดยโครงการนี้ใช้เวลาดำเนินการแค่ 98 วัน และจะดำเนินการไปตราบเท่าที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้
สำหรับการประกันรายได้ยางพารา มีดังนี้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดีที่กิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท น้ำยางสด 57 บาทต่อกก. และยางก้อนถ้วยที่ 23 บาทต่อ กก. โดยจะได้สิทธิครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ ซึ่งหากเกษตรกรมีสวนยาง 25 ไร่พอดี สำหรับยางแผนดิบ จะได้เงินส่วนต่างจากราคาตลาดกับราคาประกันรายได้ที่ 10,515 บาท น้ำยางสด 9,640 บาท และยางก้อนถ้วน 6,810 บาท และจะโอนให้ทุก 2 เดือน ซึ่งเริ่มงวดแรกวันที่ 1-15 พ.ย. 2562 งวดที่ 2 วันที่ 1-15 ม.ค. 2562 และงวดที่ 3 วันที่ 1-15 มี.ค. 2562
ส่วนคำถามที่ว่าเกษตรกรบัตรสีชมพูจะมีสิทธิ์ได้เงินส่วนต่างหรือไม่ ยืนยันว่าได้ แต่ขออย่างเดียวขอให้ปลูกจริง แจ้งจริงว่าปลูกชนิดไหน กี่ไร่ ไม่ใช่ทำยางก้อนถ้วย แล้วไปแจ้งทำยางแผ่นดิบ อันนี้ไม่ได้ เพราะเงินส่วนต่างไม่เท่ากัน ซึ่งการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะเข้าไปตรวจสวน และแจ้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จากนั้น ธ.ก.ส.จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีพี่น้องประชาชน
นายจุรินทร์กล่าวว่า รัฐบาลยังมีนโยบายเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรโดยจะสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชแซมในสวนยาง การเร่งการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น โดยจะส่งเสริมให้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมยาง ซึ่งอีกไม่กี่วันจะมีข่าวดีที่ภาคตะวันออกจะมีการตั้งโรงงานขยายการผลิตอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท จะทำให้มีการใช้ยางในประเทศมากขึ้น การเร่งรัดให้มีการนำยางพาราไปทำถนน ทำสนามกีฬา และจะเร่งรัดผลักดันการส่งออก ที่ผ่านมาได้ไปขายที่อินเดีย ขายได้ 1 แสนตัน นำเงินเข้า 9,000 ล้านบาท และจะไปตุรกี และเยอรมนี เพื่อบุกตลาดยางพารา มั่นใจว่าจะมีข่าวดี รวมถึงจีนที่จะมีข่าวดีขายยางได้ในปริมาณที่มาก คาดว่าไม่เกินกลางเดือนนี้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นับจากวันแถลงนโยบาย ใช้เวลา 98 วัน ที่สามารถจ่ายเงินส่วนต่างให้แก่เกษตรกร ซึ่งเกษตรกรที่มีบัตรสีเขียวและสีชมพู รวม 1,711,252 ราย พื้นที่สวนยางรวม 17,201,391 ไร่ หรือประมาณ 86% ของพื้นที่ทั้งหมด จะได้รับสิทธิรับเงินส่วนต่างประกันรายได้ในครั้งนี้ โดยปริมาณยางที่จะประกันรายได้ (ยางแห้ง) 240 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือ 20 กิโลกรัม/ไร่/เดือน ระยะเวลาดำเนินการต.ค. 2562 - ก.ย. 2563) ระยะเวลาประกันรายได้ 6 เดือน ต.ค. 2562 - มี.ค. 2563 จ่ายเงินชดเชย 2 เดือน 1 ครั้ง โดย ธ.ก.ส.จะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรชาวสวนยาง งวดที่ 1 จ่ายระหว่าง วันที่ 1-15 พ.ย. 2562, งวดที่ 2 จ่ายระหว่างวันที่ 1-15 ม.ค. 2563 และงวดที่ 3 จ่ายระหว่างวันที่ 1-15 มี.ค. 2563 โดยแบ่งสัดส่วนรายได้เจ้าของสวนร้อยละ 60 และคนกรีดร้อยละ 40