กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท.เตรียมประชุม 19 ก.ค.นี้ เร่งหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งกลุ่มเบเกอรี-อาหารรายย่อย รับมือห้ามใช้ไขมันทรานส์เพื่อปรับตัวหาสูตรใหม่ป้องกันลูกค้าที่ยึดติดรสชาติแบบเดิมๆ หนีหาย ขณะที่รายใหญ่นั้นหายห่วงเหตุปรับตัวมานานแล้ว
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 19 ก.ค.นี้การประชุมกลุ่มอาหารประจำเดือน ก.ค.เตรียมนำประเด็นการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายอาหารที่มีส่วนประกอบ หรือใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนซึ่งเป็นกรดไขมันทรานส์ มาหารือเนื่องจากมีความกังวลถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่เป็นขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ล่าสุดส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจถึงกระบวนการผลิต และอาจทำให้ปรับตัวได้ไม่ทันก่อนที่จะมีการบังคับใช้จริงในอีก 6 เดือนข้างหน้า
“ประกาศนี้ไม่กระทบเศรษฐกิจภาพรวม เพราะผู้ผลิตรายใหญ่โดยเฉพาะส่งออกได้ปรับตัวไปแล้วก่อนหน้า 5-6 ปี เพราะหลายประเทศทำเรื่องนี้มาก่อนทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ฯลฯ สิ่งที่น่าห่วง คือ ผู้ประกอบการรายเล็กจะปรับตัวอย่างไรมากกว่า เพราะในแง่ต้นทุนแล้วคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ถึง 5% จากเดิมแต่ปัญหาคือเรื่องของรสชาติ ความหอม อร่อยที่อาจเปลี่ยนไปหากไม่สามารถหาสูตรใหม่มาใช้แทนไขมันทรานส์ได้ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคอาจเปลี่ยนใจ ดังนั้น สิ่งที่เราต้องช่วยกันคือทำอย่างไรให้หาสูตรใหม่ที่คงเดิม ขณะเดียวกันต้องทำความเข้าใจต่อผู้บริโภคด้วย” นายวิศิษฐ์กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นทางกลุ่มจะเปิดให้สัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการภายในเดือนนี้เพื่อให้มีการปรับตัวโดยเฉพาะของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ขณะนี้ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้ไขมันทรานส์ต้องเป็นอย่างไร หรือต้องใช้อะไรมาชดเชยไขมันทรานส์ นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ จะพยายามสื่อสารให้ผู้บริโภคทั่วไปไม่ให้ตื่นตระหนกมาก เนื่องจากได้มีการแชร์ข้อมูล บางข้อมูลเป็นข้อมูลเก่าผ่านมาแล้วเป็น 10 ปี ทำให้ผู้บริโภคตื่นตระหนก ทางกลุ่มฯ จึงจะเร่งทำข้อมูลความเข้าใจที่ถูกต้องผ่านทางเพจ Facebook เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด
