xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น 5 ก.ค.นี้ “กกพ.” เคาะตรึงค่าไฟงวดสิ้นปี เตือนปีหน้ารับขาขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“กกพ.” ถก 5 ก.ค.เคาะค่าไฟฟ้างวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) แย้มยังมีเงินบริหารอีก 6,000 ล้านบาท ส่งสัญญาณอาจตรึงค่าไฟได้แต่ให้ทำใจน้ำมันพุ่งค่าไฟต้นปีหน้าขาขึ้นแน่นอน จับมือ 3 การไฟฟ้าผุดโครงการนำร่องลดใช้ไฟรูปแบบ CPP สำหรับผู้ใช้ไฟรายใหญ่เปิดสมัคร 15-30 มิ.ย. ตั้งเป้าลดใช้ไฟ 100 เมกะวัตต์



นายวีระพล จิรประดิษฐกุล โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า วันที่ 5 ก.ค. กกพ.จะพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ที่เรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนงวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค. 61) ซึ่งจะพยายามบริหารจัดการไม่ให้กระทบต่อประชาชนแต่ยอมรับว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับขึ้นจากค่าไฟงวดก่อน 50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลมาอยู่ระดับ 60-70 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งจะสะท้อนไปยังราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้น ดังนั้นผลกระทบดังกล่าวจะกระทบต่อค่าไฟฟ้าในต้นปี 2562 เป็นต้นไปให้เป็นขาขึ้นได้

“งวดนี้เรายังพอบริหารจัดการได้เพราะมีเงินที่เหลือจากการบริหารค่าไฟในช่วงที่ผ่านมาราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นค่า Ft ได้ประมาณ 9-10 สตางค์ต่อหน่วยที่จะนำไปดูแล ซึ่งยอมรับว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ขึ้นต่อเนื่องเกือบ 20 เหรียญต่อบาร์เรลนั้นในงวดนี้จะกระทบไม่มากนัก แต่ก็ต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย แต่ยอมรับว่าราคาน้ำมันที่ขึ้นต่อเนื่องจะมีผลต่อสูตรคำนวณราคาก๊าซฯ ที่อิงน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน ดังนั้นก๊าซฯ จะสูงขึ้นและมีผลกระทบค่าไฟในงวดต้นปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่ง กกพ.คงจะต้องติดตามใกล้ชิดในการบริหารจัดการ” นายวีระพลกล่าว

ทั้งนี้ กกพ.ได้ร่วมกับ 3 การไฟฟ้าที่จะจัดทำโครงการนำร่องมาตรการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response หรือ DR) รูปแบบ Critical Peak Pricing (CPP) ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่องให้กับผู้ใช้ไฟประเภท 4 หรือกิจการขนาดใหญ่ใช้ไฟอัตรา TOU และมีมิเตอร์ไฟแบบ AMR สมัครใจเข้าร่วมลดใช้ไฟแทนการจ่ายเงินชดเชยเพื่อหลีกเลี่ยงใช้ไฟช่วงเวลา 13.30-15.30 น. ซึ่งเป็น Critical Peak สำหรับรอบบิลเดือนสิงหาคมนี้นำร่องโดยจะเปิดให้ร่วม 15-30 มิ.ย.นี้ วางเป้าหมายลดใช้ไฟ 100 เมกะวัตต์

“เราจะนำร่องก่อนด้วยการสมัครใจเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ไฟโดยหลีกเลี่ยงช่วง 13.30-15.30 น. ซึ่งมาตรการนี้ก็เหมือน TOU แต่จะเพิ่มเป็น 3 ช่วงเวลา ถ้าอย่างไรก็จะดำเนินการจริงจังเป็นมาตรการถาวรในการลดการสร้างโรงไฟฟ้าในปีหน้าที่เป็นช่วงใช้ไฟสูงสุดฤดูร้อน หรือ พ.ค. 62 ซึ่งเป้าหมาย DR ระยะยาวเราวางไว้ลดใช้ไฟถึง 500 เมกะวัตต์” นายวีระพลกล่าว

นายธวัธชัย จักรไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.มีลูกค้าตรงที่เข้าข่าย 5 ราย ได้แก่ ฐานทัพเรือสัตหีบ ชลประทานซีเมนต์ ปูนซีเมนต์ท่าหลวง ปูนฯ ทุ่งสง และเหล็กสยาม คาดว่าจะลดใช้ไฟได้ 190 เมกะวัตต์

นายพูลสิริ ธรรมสโรช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค( PEA) กล่าวว่า มีผู้เข้าข่ายที่จะเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 5,400 ราย แต่ตั้งเป้าไว้ 500 ราย หรือประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ โดยหากสนใจก็สามารถยื่นได้ที่สำนักงานภูมิภาคทุกพื้นที่ แต่หากต้องการยกเลิกไม่เข้าโครงการกรณีเปลี่ยนใจได้ไม่เกิน 12 ก.ค.

นายพรศักดิ์ อุดมทรัพยากุล ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจพลังไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กล่าวว่า มีผู้ใช้ไฟเข้าข่ายจะเข้าร่วมโครงการได้ประมาณ 680 ราย สามารถประหยัดไฟ 1,000 เมกะวัตต์ สามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ของ กฟน.ได้ และกรณีต้องการยกเลิกต้องดำเนินการภายในวันที่ 19 ก.ค.


กำลังโหลดความคิดเห็น