เด็มโก้ เปิดแผนครึ่งปีหลังเดินหน้าประมูลงาน หุนนแบ็กล็อกเพิ่ม ล่าสุดตุนงานในมือแล้วกว่า 3,700 ล้านบาท พร้อมยื่นประมูลงานติดตั้งสายส่ง และสถานีไฟฟ้าของ กฟผ. มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ขณะที่ยังมีงานของการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และงานระบบสื่อสาร มั่นใจรายได้ปี 61 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังไตรมาส 1/61 กำไรเพิ่มขึ้น 43 %
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนจะเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เตรียมความพร้อมยื่นประมูลงานติดตั้งสายส่ง และสถานีไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ซึ่งมีมูลค่าโครงการออกสู่ตลาดประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี จากมูลค่าโครงการรวมทั้งหมดที่จะเปิดประมูลราว 5-6 หมื่นล้านบาทภายในระยะเวลา 5 ปี ขณะเดียวกัน มีงานที่คาดว่าจะประมูลเพิ่มเติมระหว่างปีนี้ เช่น งานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง มูลค่าประมาณ 400-500 ล้านบาท และยังมีงานระบบสายไฟเบอร์ออปติก ธุรกิจสื่อสาร มูลค่า 1,200 ล้านบาท และธุรกิจผลิตเสาโครงเหล็กปีนี้ คาดว่าจะได้งานอีกประมาณ 300-400 ล้านบาท
“การเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่องจะทำให้งานในมือรอรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีแบ็กล็อกอยู่ที่ 3,717 ล้านบาท สามารถทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 2 ปี” กรรมการผู้จัดการ กล่าว
ขณะที่ธุรกิจต่างประเทศนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอราคาโครงการสถานีไฟฟ้าย่อยในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ขณะที่โครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยใน สปป.ลาว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2561 การขยายงานไปต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายที่จะลดความเสี่ยงการพึ่งพารายได้จากงานรับเหมาในประเทศเพียงด้านเดียว
“ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทน ปัจจุบัน บริษัทฯ จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปีละประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนการเข้าลงทุนธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติม แต่บริษัทจะเน้นงานรับเหมาก่อสร้างด้านวิศวกรรมไฟฟ้าทั้งสถานีไฟฟ้า สายส่งแรงสูง รวมถึงงานพลังงานทดแทนประเภท Private PPA เป็นหลัก” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
อนึ่ง ผลประกอบการไตรมาส 1/2561 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,284.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.79% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,237.41 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 76.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.58% เมื่อเทียบกับกำไรปีที่แล้ว จำนวน 53.39 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 961.48 ล้านบาท คิดเป็น 75% ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 303.73 ล้านบาท คิดเป็น 24% ของรายได้รวม ซึ่งสาเหตุที่รายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นในงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย และงานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ และความสามารถบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น
ปัจจุบัน ฐานะทางการเงินของบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในงวดไตรมาส 1/2561 อยู่ที่ 1.30 เท่า