กระทรวงพลังงาน เผย กรณีฟ้าผ่าสายส่งน่าน - โรงไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว ทำให้ไฟดับเป็นวงกว้างเมื่อ 1 มิ.ย. ยันเป็นอุบัติเหตุไม่คาดคิด แต่ กฟผ. แก้ไขได้เร็ว สั่งศึกษาแนวทางป้องกันทบทวนตัวเลขสำรอง 15% ให้อิงรายภูมิภาค เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีฟ้าผ่าสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 เควีน่าน - โรงไฟฟ้าหงสา สปป.ลาว เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. จนกระทบไฟดับหลายพื้นที่เวลา 13.06 น. และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แก้ปัญหาให้ไฟฟ้าทยอยเข้าระบบตั้งแต่เวลา 13.08 น. และจ่ายไฟฟ้ากลับคืนได้ทั้งหมดในเวลา 13.55 น. ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหนือการควบคุม เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบก็ต้องขอประทานโทษในความไม่สะดวกที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น ได้แสดงให้เห็นว่าการมีสำรองไฟฟ้ามีส่วนสำคัญต่อความมั่นคงมาก ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ กฟผ. ศึกษาวิเคราะห์เรื่องนี้มาเป็นบทเรียนในการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตซึ่งจำเป็นต้องทบทวนตัวเลขการสำรองไฟฟ้า 15% ใหม่ที่เป็นรายภาค
“ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานวิเคราะห์นำเรื่องนี้มาเป็นบทเรียนหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ในอนาคต ซึ่งมีความคืบหน้าอย่างไรจะเรียนให้ทราบอีกครั้ง โดยแนวทางอาจจะดูถึงเรื่องการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าทำอย่างไรให้มั่นคงนอกเหนือจากมีโรงไฟฟ้าที่เพียงพอ การปรับปรุงสำรองไฟฟ้าที่ อาจจะพิจารณาเป็นรายภาค ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นส่วนในการพิจารณาปรับแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีดี) ที่กระทรวงกำลังดำเนินการด้วย” นายศิริ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ไทยมีการออกแบบสายส่งตามหลักภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมและมีการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะนำมาพิจารณาว่าต่อไปการสร้างสายส่งจะเสริมความเข้มแข็งและเชื่อมโยงกับสมาชิกกลุ่มประเทศอนุลุ่มแม่น้ำโขงที่จะเป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ในอนาคต