บี.กริม เพาเวอร์ ยัน 2 โรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 240 MW ไม่มีสะดุด มั่นใจขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตามแผน เผยอยู่ระหว่างยื่นขอย้ายที่ตั้ง 2 โรงไฟฟ้า “BGPR1-BGPR2” ไปนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) จ.สมุทรปราการ มั่นใจช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับพื้นที่ EEC ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าโครงการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 1 จำกัด (BGPR 1) และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 2 จำกัด (BGPR 2) กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ ซึ่งลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration พ.ศ. 2553 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) (ระเบียบการรับซื้อไฟฟ้า SPP) เนื่องจากประกาศคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุบเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม.ราชบุรี เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558
กระบวนการอนุมัติการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้า บริษัทฯ ได้ติดต่อประสานงานไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาความพร้อมของจุดเชื่อมโยงไฟฟ้า และสายส่งไฟฟ้าของที่ตั้งโรงไฟฟ้าใหม่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มุ่งประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากทั้งใน และต่างประเทศ และเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ EEC เนื่องจากนิคมอยู่ใกล้ บริเวณส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง
อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ในสถานีไฟฟ้าแรงสูงบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบการรับซื้อไฟฟ้า SPP ซึ่งหากบริษัทฯ ได้รับคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่องการย้ายที่ตั้งดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ ยังคงวางแผนกำหนดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประมาณ 24-26 เดือนก่อนกำหนดวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) เพื่อให้โรงไฟฟ้าเปิดดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยหากมีความคืบหน้าจากกระบวนการพิจารณาอนุมัติดังกล่าว บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบในคราวต่อไป