ปตท.ทุ่มงบลงทุนกองทุนแบบร่วมลงทุน (VC) และธุรกิจสตาร์ทอัพ 50 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ มองลงทุนสตาร์ทอัพในแถบเอเชียและไทยหวังต่อยอดเทคโนโลยีใหม่
นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิตอล บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ ปตท.ตั้งงบประมาณเพื่อลงทุนในกองทุนรูปแบบการร่วมลงทุน (Venture Capital) จำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีเป้าหมายการลงทุนอย่างน้อย 2 กองทุน รวมไปถึงการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อลงทุนโดยตรงในสตาร์ทอัพนั้นๆ ซึ่งจะทำได้รวดเร็วกว่าและมีโอกาสการต่อยอดเทคโนโลยีได้ โดยจะเน้นลงทุนในเอเชียหรือไทย
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ปตท.ยังได้อนุมัติให้ลงทุนในกองทุนอื่นนอกเหนือจากที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน ซึ่ง ปตท.ให้ความสนใจที่จะลงทุนในกองทุนพวก Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI), ดิจิทัล เป็นต้น
ในปี 2560 ปตท.ได้ลงทุนใน 4 กองทุนซึ่งอยู่ในรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) คิดเป็นมูลค่าลงทุนเกือบ 40 ล้านเหรียญสหรัฐจากงบที่ตั้งไว้ 45 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินลงทุนราว 8-10 ล้านเหรียญสหรัฐต่อกองทุน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวนอกเหนือจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ก็ยังมีโอกาสต่อยอดเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ในอนาคตด้วย
สำหรับการลงทุนกองทุนประเภท CVC จะเสมือนรูปแบบของบริษัทที่มองหาทิศทางธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วเข้าไปลงทุนด้วย ซึ่งหากธุรกิจนั้นไปได้ก็จะเข้าไปลงทุนเพิ่ม หรือเมื่อมีบุคคลสนใจซื้อก็พร้อมที่จะขายออก ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในกลุ่มสตาร์ทอัพที่เป็นการลงทุนจริงในสตาร์ทอัพนั้นๆ ที่ผ่านมา ปตท.ได้ลงทุนในกองทุน พบว่ามี 1 กองทุนที่มีกำไรแล้ว
นายวิทวัสกล่าวว่า ปตท.เพิ่งรู้ว่ามีกองทุนที่ ปตท.ได้เข้าไปลงทุน ได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท จีแอลที กรีน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) ในไทย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้กลับมาลงทุนปลายทางซึ่งเป็นสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งในประเทศไทย ทำให้มีโอกาสที่จะหารือเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและมีโอกาสลงทุนใหม่ๆ ตั้งแต่ต้นทางได้
ด้านนายชยพล หลีระพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท จีแอลที กรีน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้รับสัญญาการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้กับ ปตท.จำนวน 30 หัวจ่าย 20 สถานี รวมถึงยังมีลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยบริษัทมีผู้ร่วมทุนซึ่งเป็นคนไทย คือบริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด ถือหุ้น 51% ร่วมกับ Greenlots จากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านเทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ถือหุ้นอยู่ 49%
ทั้งนี้ เมื่อกลางปีที่แล้วกลุ่ม ปตท.ได้เข้าไปลงทุนใน Greenlots ที่สหรัฐฯ ทางอ้อม เนื่องจาก ปตท.ถือหุ้นในกองทุน EIP และ EIP ได้เข้ามาซื้อกิจการ Greenlots ในสหรัฐฯ โดยถือหุ้นมากกว่า 50% ซึ่งการที่บริษัทมีกลุ่ม ปตท.เข้ามาถือหุ้นนั้นก็จะได้มองโอกาสความร่วมมือต่อกันในอนาคตด้วย