“สมคิด” ย้ำเกาหลีเป็นหุ้นส่วนสำคัญของไทยร่วมขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0 ชี้ลงทุนช่วงนี้โอกาสดีสุด การเมืองนิ่งและกำลังจะเลือกตั้งต้นปีหน้า ศก.โตทะลุ 4% แถมยุทธศาสตร์ดี CLMVT เป็นหัวใจอาเซียน “เกาหลี” สนไบโออีโคโนมี และพลังงานทดแทน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-เกาหลีใต้ กับโอกาสของเกาหลีใต้ในการลงทุนในไทย” ในงานสัมมนา “Korea-Thailand 60th Anniversary of Diplomatic Relations : Maekyung Thailand Forum” ซึ่งจัดโดย เมคยอง มีเดีย กรุ๊ป ว่า เกาหลีใต้ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ไทยต้องการความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนร่วมกัน เพราะมีอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการมาช่วงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีด้วยเพราะการเมืองไทยกำลังสงบและวางเป้าหมายที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในต้นปีหน้า ประกอบกับเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตมากกว่า 4%
“รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) เราก็กำลังทบทวนกฎหมายการถือหุ้นของต่างชาติในกิจการประเทศไทย 49% ซึ่งผมเองก็จะประสานกับท่านทูตที่จะฟื้นการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเกาหลี-ไทย (KOTCOM) อีกครั้งในปีนี้หลังจากเคยประชุมไว้เมื่อ 2 ปีก่อนเพื่อให้ความร่วมมือใกล้ชิดมากขึ้น” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ เอเชียกำลังกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก และกลุ่มประเทศ CLMVT (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และไทย) ซึ่งไม่อาจมองข้ามได้เพราะมีการขยายตัวเศรษฐกิจอย่างมากในภูมิภาคทั้งการผลิต การค้า การลงทุน และไทยเองอยู่ใจกลางของประเทศเหล่านี้ และในวันที่ 15-16 มิ.ย.ไทยจะเป็นเจ้าภาพประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ ACMECS ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่จะมีการกำหนดจัดทำแผนแม่บท (Master Plan) จะทำให้การขับเคลื่อนไปในแนวทางเดียวกัน
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ไทยมีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่ 4.0 ซึ่งเกาหลีมีเทคโนโลยีที่เป็นเป้าหมายที่จะร่วมมือกับไทยได้เพื่อนำไปสู่โอกาสการลงทุนใหม่ๆ เช่นอุตสาหกรรมไบโอชีวภาพที่ไทยต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย ซึ่งเตรียมจะนำแผนพัฒนาไบโออีโคโนมีระยะ 2 เข้า ครม.เร็วๆ นี้
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ไทยและเกาหลีมีแผนพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงานทดแทนที่กำลังมองอยู่ใน 2 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาการลงทุนและต่อยอดนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ (โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ) ในเขื่อนของไทย และ 2. การพัฒนาระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) แบบลิเทียมซึ่งเกาหลีมีเทคโนโลยีดังกล่าว
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ปี 2553-2560 มีบริษัทชั้นนำจากเกาหลีใต้ลงทุนในประเทศไทยแล้วกว่า 230 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกันกว่า 38,800 ล้านบาท มั่นใจว่าในอนาคตด้วยนโยบายส่งเสริมการลงทุนไทยจะทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ให้ต่างชาติถือหุ้น 100% ยกเว้นบางประเภทเช่น เหมืองแร่ ฯลฯ
นายเพค อุน-กยู (Mr. Paik Un-gyu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน สาธารณรัฐเกาหลี กล่าวถึงการนำคณะหน่วยงานภาครัฐ นักธุรกิจ และนักลงทุนชั้นนำในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมรายใหญ่จากสาธารณรัฐเกาหลีกว่า 150 คนจาก 70 บริษัท เดินทางมาศึกษาลู่ทางการลงทุนในประเทศไทย เพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ว่า เกาหลีและไทยมีนโยบายที่จะก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดยเกาหลีมุ่งที่จะไปสู่เทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นทั้ง ไบโอชีวภาพ ยานยนต์สมัยใหม่ รวมไปถึงพลังงานทดแทนที่มีเป้าหมายในปี 2023 ที่ต้องการมีสัดส่วนพลังงานทดแทนเป็น 20% ของการใช้พลังงานรวม ซึ่งไทยเองมีศักยภาพด้านนี้มาก
