xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด BOI จัดหนัก! อัดส่งเสริมฯ สมาร์ทซิตี้-ที่อยู่อาศัยแรงงานมาตรฐานสากลทุกพื้นที่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บิ๊กตู่นั่งหัวโต๊ะบอร์ดบีโอไอ เคาะมาตรการส่งเสริมการลงทุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ “สมาร์ทซิตี้” เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยใช้ระบบอัจฉริยะ พร้อมเปิดส่งเสริมกิจการพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับแรงงานมาตรฐานสากลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยและต่างด้าวทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และขยายเวลาการให้ส่งเสริมใน 10 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนออกไปสิ้นสุดในปี 2563

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนกิจการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยจะส่งเสริมฯ 2 ส่วน คือ 1. กิจการพัฒนาพื้นที่เมืองอัจฉริยะ ซึ่งผู้จะพัฒนาต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่รองรับระบบอัจฉริยะด้านต่างๆ เช่น Fiber Optic, Public Wifi ด้านการบริหารจัดการข้อมูล (Open Data Platform) และต้องจัดให้มีบริการระบบอัจฉริยะพื้นฐานทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ Smart Mobility, Smart People, Smart Living, Smart Economy, Smart Governance และ Smart Energy

2. ให้ส่งเสริมแก่ผู้ที่จะมาพัฒนาระบบอัจฉริยะในด้านต่างๆ ซึ่งต้องพัฒนา ติดตั้ง และให้บริการระบบเมืองอัจฉริยะที่เหมาะสมอย่างน้อย 1 ด้านจาก 6 ด้านข้างต้น โดยทั้งสองกิจการนี้จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปี (มูลค่ายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 100 ของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับกิจการพัฒนาเทคโนโลยี แบ่งเป็น 1. หากลงทุนในเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) หรือเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) จะได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี 2. หากลงทุนในพื้นที่นิคมหรือเขตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Park) นอกพื้นที่อีอีซี จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 12 ปี

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบเปิดส่งเสริมการลงทุนแก่ “กิจการพัฒนาที่พักอาศัยสำหรับแรงงานมาตรฐานสากล” ทั้งสำหรับแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว โดยต้องเป็นที่พักที่ได้มาตรฐานตามแนวทางขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO โดยสามารถดำเนินการได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากตั้งกิจการในพื้นที่ทั่วไปจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี (เฉพาะรายได้จากค่าเช่าที่พักอาศัย และกำหนดวงเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลที่จะได้รับยกเว้นไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนตามหลักเกณฑ์) และหากตั้งใน 10 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน 10 จังหวัดจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 6 ปี โดยผู้ขอส่งเสริมจะต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2562

สนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการค้าของภูมิภาค
บอร์ดยังเห็นชอบหนุนไทยเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่ทันสมัยเพื่อพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค โดยสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce และ E-Logistics จึงเปิดให้ส่งเสริม “กิจการศูนย์กระจายสินค้าด้วยระบบอัจฉริยะ” และกำหนดให้เป็นหนึ่งในกิจการเป้าหมายที่จะได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ทั้งเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ เขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายและนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริม อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี (กำหนดวงเงินสูงสุดที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเท่ากับร้อยละ100 ของเงินลงทุน โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) สำหรับรายได้จากการให้บริการกระจายสินค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ กำหนดให้รูปแบบการลงทุนจะต้องมีการจ้างบุคลากรไทยในสาขาที่เกี่ยวข้องกับด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยตรง เช่น วิศวกรรมศาสตร์ ปัญญาประดิษฐ์และData Science เป็นต้น และต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) หรือจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Digital Transactions โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงและดำเนินการในประเทศไทย นอกจากนี้ ยังต้องจัดให้มีการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เช่น Big Data และData Analytics เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องมีการวิจัยและพัฒนาหรือร่วมมือในโครงการวิจัยและพัฒนากับสถาบันการศึกษาหรือสถาบันวิจัยของประเทศไทย เป็นต้น

ขยายเวลาส่งเสริมการลงทุนใน SEZ ถึงสิ้นปี 2563
ที่ประชุมได้พิจารณาขยายระยะเวลาการขอรับสิทธิประโยชน์ตามนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ 10 จังหวัด (ตาก ตราด มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา เชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรี และนราธิวาส) ออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 (เดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2561) เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนหลายรายกำลังจะเข้าไปพัฒนาพื้นที่ในหลายเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน จึงควรขยายเวลาเพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน ทั้งกลุ่มที่จะเข้าไปพัฒนาพื้นที่และกลุ่มที่จะเข้าไปลงทุนตั้งกิจการ


กำลังโหลดความคิดเห็น