“จีเอ็มเอ็ม” ปรับกลยุทธ์ช่อง GMM25 ขยายฐานคนดู พร้อมเร่งหาพันธมิตรแพลตฟอร์มขยายฐานลูกค้า ผนึก “วิว” (VIU) สู่แพลตฟอร์มโอทีที ด้าน “วิว” เผยปีเดียวยอดดาวน์โหลดแอปฯ ในไทยทะลุ 2.4 ล้านรายแล้ว จ่อร่วมผลิตคอนเทนต์กับโลคัลพาร์ตเนอร์
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางบริษัทยังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างและการดำเนินงานในส่วนของช่องจีเอ็มเอ็ม 25 และคอนเทนต์ของจีเอ็มเอ็มเอง เพื่อต้องการขยายฐานกลุ่มคนดูให้มากขึ้น จากเดิมเน้นกลุ่มอายุ 18-34 ปีเป็นหลัก ด้วยคอนเทนต์บันเทิงที่มีอยู่ รวมทั้งการขยายแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
“ที่ผ่านมาต้องเลิร์นนิ่งบายดูอิ้งมาตลอดเพื่อหาจุดที่เหมาะสมลงตัว อีกทั้งต้องปรับให้ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 สอดคล้องกับตลาด ซึ่งทุกวันนี้คนดูทีวีเป็นแมสมากขึ้น จากเดิมที่เน้นเฉพาะเจาะจงกลุ่มหรือเซกเมนต์โฟกัส ต้องจูนกลุ่มเป้าหมายและคอนเทนต์ให้เข้าใกล้กันมากขึ้น”
นางสาวอิงฟ้า ดำรงชัยธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายคอนเทนต์มาร์เกตติ้ง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด ผู้บริหารทีวีดิจิตอล ช่อง GMM25 กล่าวว่า ล่าสุดได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทาง วิว (VIU) ในเครือของพีซีซีดับเบิลยู มีเดีย กรุ๊ป ของฮ่องกง ระยะเวลานาน 1 ปี จากปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรมากมายที่เป็นช่องทางนำคอนเทนต์ไปออกอากาศผ่านทางโซเชียลมีเดียหรือโอทีที เพื่อขยายฐานตลาด ขยายธุรกิจและสร้างรายได้ ซึ่งพันธมิตรแต่ละรายมีความแตกต่างกันในเงื่อนไข กลุ่มเป้าหมาย การแบ่งรายได้ การคัดเลือกคอนเทนต์ เป็นต้น
ด้าน นายธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้ามาในไทยได้ปีเศษ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอปฯ แล้ว 2.4 ล้านราย จากสิ้นเดือน พ.ย ปีก่อนมี 1.5 ล้านราย และจีเอ็มเอ็มถือเป็นพันธมิตรโลคัลคอนเทนต์รายแรกในไทยที่จะทำให้ขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น จากเดิมมีคอนเทนต์บริการในไทยเป็นภาพยนตร์เกาหลีกว่า 10,000 ชั่วโมง หรือมากกว่า 90% นอกจากนั้นเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่น และไทย
สำหรับการจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์ธุรกิจ คือ นำคอนเทนต์โลคัลจากพันธมิตรมาใช้ และการร่วมมือกับโลคัลพาร์ตเนอร์ในการผลิตคอนเทนต์เพื่อป้อนให้ผู้บริโภคในไทย รวมถึงการส่งไปยังเครือข่ายของวิวทั่วโลกอีกด้วย ขณะที่ผู้ชมจะได้รับชมคอนเทนต์ล่าสุดจาก GMM 25 ได้ทันทีหลังจากออกอากาศ สำหรับสมาชิก Viu Premium แบบเต็มอิ่มไม่มีโฆษณาคั่น รับชมชัดแบบ Full HD พร้อมดาวน์โหลดไว้ดูภายหลังได้ จากรูปแบบการให้บริการทั้งหมด ที่มีทั้งฟรีและพรีเมียมที่ต้องเสียค่าบริการ เช่น การรับชมก่อนใคร การรับชมแบบไม่เอาโฆษณา การดาวน์โหลดภาพยนตร์เก็บไว้ชมภายหลัง เป็นต้น
ปัจจุบันวิวในไทยเป็นแอปฯ ที่ดาวน์โหลดมากสุดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ผ่านระบบแอนดรอยด์ 55% และผ่านไอโอเอส 45% เป็นผู้หญิง 70% และผู้ชาย 30% ช่วงเวลาที่ชมคอนเทนต์มากที่สุด คือ ตอนเย็น ใช้เวลาชมเฉลี่ย 1.2-1.8 ชั่วโมงต่อคนต่อวัน ทั้งนี้ พบว่าการให้บริการคอนเทนต์แบบสตรีมมิ่งหรือโอทีทีเติบโตต่อเนื่องและเป็นช่องทางสำคัญของชาวเอเชีย ส่งผลให้วิวเป็นธุรกิจบริการวิดีโอสตรีมมิ่งในภูมิภาคนี้ที่มีผู้ใช้บริการรวมกว่า 16 ล้านคนในปี 2560 จากปัจจุบันวิวมีรายได้หลักจากโฆษณา และเปิดให้บริการใน 15 ประเทศแล้ว ที่ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และตะวันออกกลางที่ บาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน คูเวต กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์