กระอัก! แอลพีจี-เอ็นจีวีพาเหรดขึ้นราคาวันนี้ จับตาน้ำมันโลกพุ่งต่อ

ราคาแอลพีจีขยับขึ้นทั้งภาคขนส่งและครัวเรือน โดยขนส่งขยับขึ้น 0.31 บาทต่อลิตร ครัวเรือนขึ้น 0.57 บาทต่อ กก. ทำให้ถัง 15 กก.แตะ 372 บาทต่อ กก. ทะลุเพดานควบคุมกระทรวงพาณิชย์แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันโลกเริ่มขยับอีก จับตาราคาขายปลีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) แจ้งว่า วันนี้ (16 พ.ค.) ราคาขายก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนของ ปตท.ปรับขึ้น 0.5714 บาท/กก. (รวม VAT) และราคาหน้าปั๊มปรับขึ้น 0.31 บาท/ลิตร ส่งผลราคาแอลพีจีขนาดถังละ15 กก.ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 372 บาท นับเป็นการขยับขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา และเป็นราคาที่สูงกว่าที่เพดานควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 353 บาทต่อถัง 15 กก.

สำหรับราคาเอ็นจีวีรถยนต์ทั่วไปปรับขึ้น 57 สต./กก. ราคาอยู่ที่ 14.14 บาท /กก. ราคารถสาธารณะ เช่น แท็กซี่ รถตู้ รถเมล์ รถโดยสารประจำทาง ปรับขึ้น 62 สต./กก. มาอยู่ที่10.62 บาท/ กก. โดยรถโดยสารสาธารณะ ทาง บมจ.ปตท.ยังอุดหนุนราคานี้ไปจนถึง 1 ก.ค. 2562 การปรับราคาของรถสาธารณะก็เป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. ที่ให้สะท้อนค่าความร้อนที่เปลี่ยนแปลงไป ตามแผนการบริหารจัดการคุณภาพ NGV

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก บมจ.ไทยออยล์แจ้งว่า ปิดตลาดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ 78.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล, เวสต์เทกซัส 71.31 ดอลลาร์/บาร์เรล, ดูไบ 75.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ ดีเซล 90.17 ดอลลาร์/บาร์เรล เบนซิน 88.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่ตลาดกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงหลังสหรัฐฯ ดำเนินการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ซึ่งเป็นการกำจัดอุปทานส่วนเกินที่กดดันราคาน้ำมันดิบอยู่ในช่วงปี 2557-2560 และโอเปกรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (OECD) ในเดือน มี.ค. 61 ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ