xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” บินหารือศรีลังกา วางกรอบเจรจา FTA หลัง ครม.ไฟเขียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เตรียมจัดคณะบินหารือศรีลังกาวางกรอบเจรจา FTA ทันที หลัง ครม.ไฟเขียวให้ คาดเริ่มเจรจารอบแรกได้ช่วงกลางปีนี้ มั่นใจเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุน และช่วยดันเป้าหมายค้าขาย 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 63 เผยยังจะใช้หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเดินหน้าในสาขาที่สนใจร่วมกันไปก่อนด้วย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2561 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบกรอบการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ศรีลังกา ซึ่งเป็นกรอบการเจรจา FTA แบบกรอบกว้าง ครอบคลุมด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน โดยตนจะนำผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการเจรจา ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ค. 2561 ณ กรุงโคลัมโบ ศรีลังกา

สำหรับการเจรจาจัดทำ FTA ไทย-ศรีลังกา เกิดขึ้นหลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเยือนศรีลังกาเมื่อเดือน มี.ค. 2559 และเห็นพ้องกันว่าจะทำ FTA เพื่อเป็นเครื่องมือในการขยายมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าสองฝ่ายเป็น 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 โดยคาดว่าการเจรจา FTA น่าจะเริ่มรอบแรกได้ภายในช่วงกลางปี 2561 นี้

นางอรมนกล่าวว่า การจัดทำ FTA ไทย-ศรีลังกา จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันให้มูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับศรีลังกาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้ศรีลังกาเป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชียใต้ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 1,200 ล้านคน และเป็นฐานกระจายสินค้าไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาได้ด้วย รวมทั้งศรีลังกายังมีวัตถุดิบที่ไทยต้องการนำเข้ามาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมภายในประเทศ เช่น อัญมณี และประมง เป็นต้น

ทั้งนี้ ในช่วงที่เจรจา FTA ไทยจะเดินหน้าในการขยายความร่วมมือกับศรีลังกาไปก่อน โดยจะหารือกับศรีลังกา เพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและศรีลังกา โดยจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในสาขาศักยภาพที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน เช่น การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร การประมง อัญมณีและเครื่องประดับ

ปัจจุบันศรีลังกามี FTA กับอินเดีย เฉพาะด้านการค้าสินค้า ปากีสถานและสิงคโปร์ และอยู่ระหว่างการเจรจาเพิ่มเติมกับอินเดีย จีน และ BIMSTEC


กำลังโหลดความคิดเห็น