“พาณิชย์” ใช้แผนร่วมมือเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ขยายการค้า การลงทุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับศรีลังกา ในช่วงที่รอการเจรจา FTA เตรียมเดินหน้าจับมือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เกษตร ประมง อัญมณีและเครื่องประดับ ท่องเที่ยว การเงิน บรรจุภัณฑ์ และการพัฒนา SMEs
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนไทยเยือนกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เพื่อหารือถึงการเตรียมการเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ศรีลังกา เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าทั้งสองประเทศเห็นตรงกันว่าการทำ FTA ไทย-ศรีลังกา จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้ขยายตัวมากขึ้น และจะมีส่วนขับเคลื่อนให้มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 ตามเป้าหมายที่ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดไว้
ทั้งนี้ ในช่วงที่อยู่ระหว่างการเตรียมการเจรจา FTA ไทยได้เสนอศรีลังกาให้ใช้แผนความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ มาพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่แต่ละประเทศมีความสนใจร่วมกันก่อน เพราะหากรอผลการเจรจา FTA อาจต้องใช้เวลานาน แต่ถ้าใช้ความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ก็ทำได้เลย และช่วยขยายความร่วมมือกันได้เลย ซึ่งทางศรีลังกาก็เห็นด้วย
สำหรับสาขาเศรษฐกิจสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันได้ เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร การประมง อัญมณีและเครื่องประดับ การท่องเที่ยว ความร่วมมือด้านการเงิน การพัฒนา SMEs อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น
ส่วนการจัดทำ FTA เบื้องต้นได้กำหนดให้มีกรอบกว้าง ครอบคลุมทั้งเรื่องการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เป็นต้น โดยโดยทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าให้มีการประกาศเปิดการเจรจา FTA และเริ่มเจรจา FTA ไทย-ศรีลังกา รอบแรก รวมทั้งการลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมเพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและศรีลังกาในระหว่างการพบกันของผู้นำระดับสูงของสองประเทศภายในปี 2561 นี้
