นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน เขียนบทความเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน ในโอกาสที่เดินทางเยือนญี่ปุ่นเพื่อร่วมประชุมผู้นำจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ โดยเน้นถึงความสำคัญของการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน เริ่มเดินทางเยือนญี่ปุ่นระยะเวลา 4 วัน ในวันอังคารที่ 8 พฤษภาคม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด 3 ฝ่าย ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ รวมทั้งการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นด้วย
การเดินทางครั้งนี้จะเป็นการเดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกของนายหลี่ เค่อเฉียง นับจากที่เข้าดำรงตำแหน่ง และเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีจีนเยือนญี่ปุ่นนับตั้งแต่ครั้งที่นายเหวิน เจียเป่า เยือนญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2554
ในวันพุธที่ 9 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรีจีนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด 3 ฝ่าย กับผู้นำญี่ปุ่นและประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ของเกาหลีใต้ รวมถึงจะเข้าร่วมการหารือแบบแยกต่างหากกับผู้นำญี่ปุ่นด้วย
ในวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรีจีนมีกำหนดจะเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ก่อนจะเดินทางเยือนจังหวัดฮอกไกโด ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น
ในการประชุมสุดยอดที่จะมีขึ้นนี้ จีนมุ่งแสวงหาความร่วมมือในการรับมือกับเกาหลีเหนือและประเด็นกีดกันทางการค้า
บทความผู้นำจีนชี้ “มิตรภาพและสันติภาพระหว่างจีนและญี่ปุ่นได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง”
นายหลี่ เค่อเฉียง ยังได้เขียนบทความเผยแพร่ใน “อาซาฮี ชินบุน” หนึ่งในหนังสือพิมพ์ใหญ่ของญี่ปุ่น นายกฯจีนเริ่มต้นบทความว่า เที่ยวบินระหว่างปักกิ่ง-โตเกียวใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงกว่า และมีเที่ยวบินวันละกว่าสิบเที่ยว แต่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นในหลายปีนี้กลับเชื่องช้ามาก ในฐานะที่เป็นนายกฯ จีนในรอบ 8 ปีที่เดินทางเยือนญี่ปุ่นจึงหวังจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มั่นคงในระยะยาว เพราะประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของโลกหากมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงแล้ว ไม่เพียงจะนำความสุขมาแก่ประชาชนของทั้งสองชาติ แต่ยังจะสร้างความรุ่งเรืองและสันติภาพแก่ภูมิภาคและโลกด้วย
ในบทความกล่าวอ้างถึงระบบทหารของญี่ปุ่นที่เคยสร้างหายนะให้แก่ประชาชนชาวจีนและญี่ปุ่น แต่ก็ระบุว่าหลังจากปี 2543 จีนและญี่ปุ่นได้เริ่มต้นสัมพันธ์ที่ดี ได้ตกลงกันเรื่องปัญหาไต้หวัน และยืนยันถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมิตรไมตรี
บทความของนายกฯ จีนอ้างอิงคำประกาศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศว่า จีนจะไม่ปิดประตูประเทศ แต่จะก้าวออกไปมากยิ่งขึ้นเพื่อมุ่งสู่อนาคต จีนในฐานะประเทศกำลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดมุ่งหวังที่จะมีสัมพันธ์ที่มั่นคงกับญี่ปุ่นและประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า “เราจะไม่ยอมเสียเวลา จะเดินหน้าไปด้วยกัน”
นายกฯจีนยังคาดหวังความก้าวหน้าในความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เช่น การทำข้อตกลงการค้าเสรี หรือ FTA และความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค ที่เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง ASEAN 10 ประเทศ กับคู่ภาคี 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ หรือ RCEP
ในช่วงท้ายบทความ นายกฯ หลี่ เค่อเฉียง ระบุว่าญี่ปุ่นจะมีส่วนร่วมอย่างสำคัญในนโยบาย “หนี่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน โดยญี่ปุ่นและจีนจะสนับสนุนซึ่งกันและกันในเรื่องเทคโนโลยี, การปฏิรูปการผลิต, อุตสาหกรรมไฮเทค, การอนุรักษ์พลังงาน, สิ่งแวดล้อม, การเงินการคลัง, สวัสดิการสังคมและการรักษาพยาบาล รวมถึงมีโอกาสสร้างความร่วมมือในประเทศที่ 3 ด้วย
นายกฯ จีนสรุปลงท้ายว่า จะสนับสนุนให้เยาวชนของทั้งสองประเทศไปมาหาสู่และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องและปูทางสู่อนาคตที่มีสันติภาพตลอดกาล