พีทีที โกลบอลฯ จ่อซื้อซองทีโออาร์รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ด้านบางจากฯ เล็งฉายฟุตบอลโลกจอยักษ์ในปั๊มหวังเติมความสุขคนไทย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) กล่าวถึงกรณีที่บอร์ด ปตท.อนุมัติให้บริษัทในเครือซื้อเอกสารเปิดประมูล (ทีโออาร์) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ว่า ในฐานะที่บริษัทดำเนินธุรกิจในจังหวัดระยอง สิ่งใดที่เป็นประโยชน์และอยู่ในวิสัยที่บริษัทจะดำเนินการได้โดยไม่กระทบต่อฐานะการเงินและความเข้าใจของนักลงทุน บริษัทก็พร้อมที่จะลงทุน แต่ทั้งนี้บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจ คงต้องพิจารณาก่อน
ส่วนกรณีที่บริษัทฯ เป็นผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 นั้น เนื่องจากเห็นว่าต้องการให้คนไทยมีความสุขกับกีฬาที่ตนรัก ซึ่งการแข่งขันฟุตบอลโลก 4ปีมีครั้งจึงเป็นโอกาสที่ดีฐานะเป็นตัวแทนกลุ่ม ปตท. และบริษัทที่อยู่ในจังหวัดระยองเพื่อสนับสนุนการถ่ายทอดสดกีฬาดังกล่าว ที่ผ่านมาบริษัทก็สนับสนุนทีมฟุตบอล ปตท.ระยองอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่อยู่ในพรีเมียร์ลีก รวมทั้งยังพัฒนาศักยภาพเยาวชนในจังหวัดระยอง และเป็นสปอนเซอร์หลักโรงเรียนกีฬาฟุตบอล ส่งเสริมให้อยู่ในสโมสรเยาวชนปตท.ระยอง โดยมีเด็กติดเยาวชนทีมชาติไทยแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัท
ด้าน นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ มีแผนจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในช่วงการแข่งขันฟุตบอล 2018 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด เบื้องต้นมีแนวคิดที่จะฉายฟุตบอลโลกผ่านจอขนาดใหญ่ในปั๊มน้ำมันบางจากมีพื้นที่กว่า 10 ไร่ รวมถึงฉายนอกพื้นที่ปั๊มที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลในบางพื้นที่ที่เป็นจุดหลัก และกระจายออกต่างจังหวัดในบางจังหวัดด้วย แต่ต้องศึกษาเงื่อนไขของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ว่าจะสามารถดำเนินการในรูปแบบใดได้บ้าง
ทั้งนี้ บางจากฯ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขให้แก่คนไทยได้รับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกฟรี ที่ผ่านมาบางจากฯ ก็ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาต่างๆ เช่น กอล์ฟ โดยผ่านตัวนักกีฬาทั้ง “โปรแหวน” และ “โปรอ้าย” รวมถึงกีฬาแบดมินตัน ผ่าน “น้องเมย์” ขณะที่กีฬาฟุตบอลก็มีสนับสนุนสโมสรฟุตบอลเยาวชนบางจาก ที่บริษัทฯ ได้ก่อสร้างสนามฟุตบอลหน้าโรงกลั่นฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
วันนี้ (30 เม.ย.) นายประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานแถลงข่าว “ประเทศไทยเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018” ซึ่งจะจัดการแข่งขันขึ้นระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-15 ก.ค.นี้ ที่ประเทศรัสเซีย ได้มีการเซ็นสัญญาคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 กับฟีฟ่า ผ่านทางบริษัท อินฟรอนท์ สปอร์ต แอนด์ มีเดีย ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในภูมิภาคเอเชียได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้คนไทยรับชมการแข่งขันรายการนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครบ 64 แมตช์
ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการผนึกกำลังร่วมกันระหว่างภาครัฐ นำโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมกับภาคเอกชน 9 องค์กร ได้แก่ บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท กัลฟ์เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด