xs
xsm
sm
md
lg

“แบรนด์ซันโทรี่” โหมตลาดไทย สยายปีกปั้นโมเดล “ขายตรง” รุก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 ผู้บริหารและแบรนด์แอมบาสเดอร์ถ่ายรูปร่วมกัน
ผู้จัดการรายวัน 360 - “แบรนด์ ซันโทรี่” สยายปีกรุกตลาดขายตรงในไทย ผ่าน 3 ช่องทาง ปั้นโมเดลใหม่เสริมช่องทางรีเทล มั่นใจตลาดขายตรงไทยมีศักยภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์โซเชียลฯ คาดยอดขาย 500 ล้านบาทในปี 2563

นายยูอิชิโร่ อาระ ผู้บริหารแผนกธุรกิจขายตรง บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แบรนด์ซันโทรี่ได้ขยายธุรกิจขายตรง หรือไดเรกต์ บิสิเนส (Direct Business) เข้าสู่ประเทศไทย เนื่องจากมองเห็นศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตที่ดีของธุรกิจขายตรงซึ่งไทยเป็นตลาดที่น่าสนใจและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยที่มีไลฟ์สไตล์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กมากขึ้นด้วย

โมเดลธุรกิจขายตรงของแบรนด์ซันโทรี่นี้ ทำมาแล้วใน 4 ประเทศ คือ ไต้หวัน ซึ่งทำมานานแล้วและเป็นตลาดหลักมีสินค้าจำนวนมากกว่าในไทย เน้นหนักแบรนด์แบบเม็ด มีสัดส่วนรายได้ 70% จากรายได้รวมธุรกิจขายตรงใน 4 ประเทศของแบรนด์ซันโทรี่ที่มีประมาณ 700 ล้านบาท รวมทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ และไทย และเดือนหน้าจะเปิดธุรกิจนี้ที่มาเลเซียด้วย ทั้งนี้ ในปี 2561 นี้จะมีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท และภายในปี 2563 ตั้งเป้าหมายรายได้รวมทุกประเทศ 2,500 ล้านบาท ส่วนขายตรงที่ญี่ปุ่นไม่เกี่ยวกันเพราะเป็นในนามของซันโทรี่เวลเนส ที่มียอดขายประมาณ 30,000 ล้านบาท
ตูน  อาทิวราห์ คงมาลัย ฮีโร่ขวัญใจคนไทย และแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิต Active มีความเหมาะสมที่จะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของแบรนด์แอคทีฟมูฟ
“ธุรกิจขายตรง หรือดีบี ถือเป็นโมเดลใหม่ในไทย โมเดลนี้จะเป็นการอุดช่องว่างแบบเดิมๆ ที่เป็นรีเทลร้านค้าต่างๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างยอดขายสินค้าในพอร์ตของแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักของคนไทยมานานอยู่แล้ว ตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่ใช้ช่องทางอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น และเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้นสร้างความสัมพันธ์และสื่อสารข้อมูลได้มากกว่าเดิมด้วย โดยมี 3 ช่องทางขายสำคัญ คือ เทเลเซลล์ 0-2079-7977 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ 20 คน และเอาต์ซอร์สอีก 50 คน และจะเพิ่มอีกในอนาคต, เว็บไซต์ https://store.brandsworld.co.th และ LINE : @BRANDScare” นายยูอิชิโร่กล่าว

ทั้งนี้ สินค้าจำหน่ายในช่องทางขายตรงนี้จะพบได้ว่า ที่ไต้หวันสัดส่วนหลักกว่า 80-90% มาจากผลิตภัณฑ์แบบเม็ด ขณะที่สัดส่วนการขายของผลิตภัณฑ์แบรนด์ทั่วโลก ยังคงมาจากแบบน้ำมากกว่า 90% ขณะที่สัดส่วนรายได้ที่มาจากช่องทางขายตรงประมาณ 5% ตั้งเป้าหมายในปี 2563 จะเพิ่มเป็น 10%
นายยูอิชิโร่ อาระ ผู้บริหารแผนกธุรกิจขายตรง บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดและ นางสาวศวรรยา จันทรสถาพรจิต ผู้จัดการอาวุโสแผนกธุรกิจขายตรง บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
น.ส.ศวรรยา จันทรสถาพรจิต ผู้จัดการอาวุโส แผนกธุรกิจขายตรง บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจขายตรงนี้จะดำเนินกิจการคนละส่วนไม่เกี่ยวกันกับ บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัดที่เน้นช่องทางรีเทล เป็นคนละหน่วยธุรกิจต่างช่องทางจำหน่าย แต่สินค้าเดียวกันคือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ เช่น ซุปไก่สกัด รังนก เจนยู วีต้า แบรนด์เม็ด และแบรนด์เห็ด และอื่นๆ โดยไม่มีสินค้าบริษัทอื่น มีเพียงแต่แบรนด์เท่านั้น และในอนาคตจะมีสินค้าใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ราคาไม่มีแตกต่างจากช่องทางรีเทล

สำหรับตลาดประเทศไทยนี้ดำเนินธุรกิจมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้เน้นหนัก แต่จากนี้ไปจะให้ความสำคัญมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2561 นี้ ประมาณ 200 กว่าล้านบาท และรายได้รวมเพิ่มเป็น 500 ล้านบาทภายใน 3 ปีจากนี้ ปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายทุกอย่างที่เป็นของแบรนด์ แต่ในอนาคตจะเน้นสินค้าที่เป็นแบบเม็ดมากขึ้น ตอนนี้มีเม็ด 4 แบบแล้ว
นางสาวศวรรยา จันทรสถาพรจิต ผู้จัดการอาวุโสแผนกธุรกิจขายตรง บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด
ล่าสุดคือ การนำสินค้าใหม่คือ แบรนด์แอคทีฟมูฟ เข้ามาจำหน่ายในช่องทางขายตรงนี้เป็นครั้งแรกและเป็นประเทศแรกด้วย แบบเอ็กซ์คลูซีฟไม่มีขายในช่องทางอื่นที่เป็นรีเทล ขณะที่ประเทศอื่นยังไม่มีขายในช่องทางนี้ เป็นสินค้าอาหารเสริมที่นำเข้ามาจากไต้หวัน เจาะกลุ่มเป้าหมาย ผู้ชายและผู้หญิงอายุ 25-60 ปี ชอบออกกำลังกาย เป็นคนเมือที่ต้องเคลื่อนไหวตลอด ราคากล่องละ 1,260 บาท จำนวน 30 เม็ด โดยได้ “ตูน บอดี้สแลม” หรือ อาทิวราห์ คงมาลัย” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก เพราะมีไลฟ์สไตล์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้า ใช้งบการตลาดรวม 25 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายยอดขายแบรนด์แอคทีฟมูฟไว้ประมาณ 200 กว่าล้านบาทภายในปี 2563 นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะผลิตแบรนด์แอคทีฟมูฟในไทยด้วย
แบรนด์แอคทีฟมูฟ
อย่างไรก็ตาม นอกจากช่องทางขายตรงนี้แล้ว บริษัทฯ ยังมีช่องทางอีคอมเมิร์ซอื่นอีก โดยผ่านทางมาร์ก็ตเพลสหลายค่าย เช่น ลาซาด้า อีเลฟเว่นสตรีท และช้อปปี้ โดยตั้งเป้าหมายว่า ตลาดขายตรงในไทยของแบรนด์ ซันโทรี่ จะมีสัดส่วนประมาณ 40% จากรายได้รวมขายตรงทั้งหมด จากขณะนี้สัดส่วน 20%


กำลังโหลดความคิดเห็น