4 ภาคี ผนึกกำลังพัฒนาครู ด้วยวิธีการเรียนรู้แบบ Active Learning ใช้กระบวนการ GP AS 5 Steps ตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเด็กไทย
ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหารของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) กล่าวว่า เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่จะนำประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0 โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่ต้องการผลักดัน ส่งเสริมให้ผู้เรียน เรียนรู้แล้วมีความสามารถเข้าถึงนวัตกรรมที่สอดคล้องกับท้องถิ่น ซึ่งแอคทีฟเลิร์นนิ่ง หรือการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ ซึ่งทุกคนเห็นพ้องกันว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ในระหว่างวันที่ 22 - 23 มีนาคมนี้ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กระบี่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 13 ตรัง - กระบี่ มหาวิทยาลัยทักษิณ และ พว. ได้ร่วมกันพัฒนาครูมัธยมศึกษากว่า 850 คน ในจังหวัดกระบี่ โดยจะจัดให้ทั้ง 8 อำเภอในจังหวัดกระบี่ทำหน้าที่เป็นฐานหลักในแต่ละสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ และหลังจากการอบรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทาง พว. และ ม.ทักษิณ จะร่วมกันดำเนินการติดตามผล
ในการอบรมครั้งนี้เป็นการอบรมอย่างเข้มเพื่อให้ครูมัธยมศึกษาทั่วทั้งจังหวัดกระบี่มีความเข้าใจการจัดการเรียนการสอนแนวใหม่รูปแบบแอคทีฟเลิร์นนิง หรือ การเรียนรู้จากการปฏิบัติพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งการอบรมครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาที่การจัดอบรมจะจัดให้เฉพาะหัวหน้ากลุ่มสาระ หรือผู้แทนเพื่อให้กลับไปขยายผลให้แก่ครูในโรงเรียน ทั้งนี้ การขยายผลอาจจะไม่ทั่วถึงและไม่ได้ผลเท่าที่ควร จึงใช้วิธีนำร่องอบรมพร้อมกันทั้งจังหวัดกระบี่ ถือเป็นโมเดลการขับเคลื่อนการอบรมครูที่จะขยายผลไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศ ให้มีความรู้ในการจัดการเรียนการสอนแนวใหม่ เพื่อนำไปสู่การใช้กระบวนการพีแอลซีหรือชุมชนแห่งการเรียนรู้ครูมืออาชีพ ที่จะมีการแลกเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการปฏิบัติซึ่งกันและกัน ที่สำคัญเมื่อครูเข้าใจและปฏิบัติตามวิธีการนี้ได้ ผลก็จะเกิดกับนักเรียนอย่างแน่นอน
“หลักสูตรของไทยปรับมา 10 ปีแล้ว โดยนำมาตรฐานมาเป็นตัวชี้วัดหรือเป้าหมายการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นหลักสูตรอิงมาตรฐาน คือกำหนดให้เด็กต้องคิดอะไร ทำอะไร แก้ปัญหาอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องลงมือปฏิบัติทั้งหมด โดยในทางปฏิบัติเมื่อครูนำมาใช้ก็ยังสอนวิธีการแบบเดิมที่เป็นการเรียนรู้แบบพาสซีฟเลิร์นนิงหรือการเรียนรู้แบบตั้งรับ ที่เด็กนั่งฟังเ ครูบรรยายหรือบอกเล่า จึงไม่ทำให้เกิดการเรียนเปลี่ยนแปลง เด็กก็ยังไม่สามารถเรียนรู้ในระดับหลักการได้ อย่างไรก็ตาม ผมได้ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นในคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.) และได้ลงไปรับฟังความเห็นในพื้นที่ก็พบว่า ครูเก่ง สอนมากขึ้น ค้นคว้าหาเนื้อหามาสอนเด็กมากขึ้น แต่เด็กกลับรู้น้อยกว่าเดิม เพราะครูไม่เข้าใจเป้าหมายของการเรียนรู้ดังกล่าว ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องมีการสร้างความเข้าใจ ผมมั่นใจว่าถ้าครูเข้าใจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน”ดร.ศักดิ์สิน กล่าว