MGR Online - กลุ่มผู้เสียจากการหลอกลงทุนกองทุนจัดการหนี้สิน ร้องเอาผิด “ไทยเอเชียน เน็ตเวิร์ค” ประกอบธุรกิจขายตรง มีผู้เสียหายราว 200 คน อ้างผลตอบแทนล้านบาท มูลค่าความความเสียหายมากกว่า 120 ล้านบาท
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายยรรยง ดิษกร อายุ 61 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียจากการหลอกลงทุนกองทุนจัดการหนี้สิน เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วิชิต ผังดี รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัท ไทยเอเชียน เน็ตเวิร์ค ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังหลอกให้ร่วมลงทุนโดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง โดยนำคลิปเสียง ใบเสร็จการโอนเงิน และเอกสารต่างๆ มามอบไว้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคดี
นายยรรยงกล่าวว่า ร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2560 โดยทางบริษัทฯ ได้ส่งตัวแทนมาอบรมชาวบ้านที่สนใจโดยอ้างว่าบริษัทจะนำเงินที่สมัครสมาชิกไปช่วยเหลือคนจน และทางบริษัทก็ยังประกอบธุรกิจขายตรง เช่น สบู่ อาหารเสริมสุขาพ เป็นต้น ทั้งนี้ การสมัครสมาชิกมีหลายรูปแบบเริ่มต้นที่ 4,500 บาทต่อ 1 ราย โดยจะได้รับค่าตอบเเทนวันละ 45,000 บาท หรือคิดเป็นเดือนละ 1 ล้านบาท ซึ่งจะได้เงินดังกล่าวหลังจากวันสมัคร 1 เดือน นอกจากนี้ยังมีการสมัครสมาชิกที่ระดับสูงขึ้นไปอีกคือการลงทุน 1 ล้านบาท ส่วนผลตอบแทนนั้นได้ 1 ล้านบาทเท่ากัน
นายยรรยงกล่าวต่อว่า หลังจากการพูดคุยรายละเอียดกับทางบริษัทฯ ตนจึงตัดสินใจสมัครสมาชิกแบบ 4,500 บาท ส่วนภรรยาตนตัดสินใจลงทุนแบบ 1 ล้านบาท เนื่องจากทางบริษัทอ้างว่าถ้าหากไม่มีใครสมัครสมาชิกในจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ก็จะไม่การันตีผลตอบแทนของสมาชิกแบบ 4,500 บาท ซึ่งภรรยาตนจึงได้ลงทุนไปทั้งหมด 2.9 ล้านบาท ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินจากการเอาโฉนดที่ดินไปขายฝากโดยตัวแทนของบริษัทดังกล่าวเป็นผู้พาไปขายฝาก
นายยรรยงกล่าวอีกว่า หลังจากลงทุนไปแล้วปรากฏว่าทางบริษัทฯ ไม่ได้จ่ายเงินตอบแทนตามที่กล่าวอ้างไว้ จึงพยยาามทวงถามหลายครั้งก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงจนกระทั่งเงียบหายไป จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย แต่ตนเองเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีกจึงอยากจะให้ทางกองปราบปรามช่วยติดตามจับกุมเครือข่ายดังกล่าวให้ครบเนื่องจากจะได้ไม่ไปหลอกชาวบ้านคนอื่นอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จากการรวบรวมผู้เสียหายมีประมาณ 200 คน อยู่ในพื้นที่ จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นครปฐม และ จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนความเสียหายมากกว่า 120 ล้านบาท
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่ทางผู้เสียหายนำมามอบให้ ก่อนที่รวบรวมข้อมูลส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป