xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดคอลลาเจนยังสดใส “คอลลี่ คอลลาเจน” โหมบุกหนักจีน-เวียดนาม ทุ่ม 100 ล้านขยายโรงงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พีรพัฒน์ ลิขิตรัตน์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพีที พลัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า คอลลี่ คอลลาเจน (Colly Collagen)
นายพีรพัฒน์ ลิขิตรัตน์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพีที พลัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า คอลลี่ คอลลาเจน (Colly Collagen) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดคอลลาเจนขยายตัวไปอย่างรวดเร็วทั้งใน และต่างประเทศ ปัจจัยบวกมาจากคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จึงหันมาดูแลตัวเอง แม้ว่าตลาดในไทยจะอยู่ในภาวะทรงตัวเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ขยายตัวมากนัก แต่ยังมีตลาดต่างประเทศมาชดเชย โดยเฉพาะตลาดจีนแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะเศรษฐกิจจีนยังดี กลุ่มผู้หญิงวัยทำงานหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น

จากการสำรวจพฤติกรรมลูกค้าจีนชื่นชอบสินค้าจากไทยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้ B+ ขึ้นไป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทยมักจะหาซื้อสินค้าก่อนกลับประเทศ ส่วนตลาดเวียดนามก็กำลังขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดบริษัทได้เข้าไปลงทุนตั้งสำนักงานที่เวียดนามแล้วเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ส่วนแผนการตลาดใหม่จะเตรียมบุกตลาดอินโดนีเซียที่มีประชากรจำนวนมาก และมีกำลังซื้อสูง ส่วนการทำตลาดจีนในระยะยาวจะทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์มากยิ่งขึ้น และมีแนวคิดที่จะตั้งโรงงานในจีน แต่จะต้องดูสถานการณ์ไปสักพักก่อน และศึกษาในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนอีกที โดยขณะนี้สัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 50% ในประเทศ 50% แนวโน้มสัดส่วนตลาดต่างประเทศจะมากขึ้น
พีรพัฒน์ ลิขิตรัตน์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพีที พลัส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า คอลลี่ คอลลาเจน (Colly Collagen)
สำหรับตลาดในประเทศจะเน้นการขายผ่านโมเดิร์นเทรด เช่น วัตสัน เซเว่น อีเลฟเว่น และร้านขายยาทั่วประเทศ และขายผ่านออนไลน์ โดยจะแบ่งสัดส่วนตลาด 70% อยู่โมเดิร์นเทรด และ 30% อยู่ที่ช่องออนไลน์ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าประมาณ 10 ชนิด และเตรียมจะเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ในแต่ละปี เช่น สินค้ากลุ่มผู้ชาย เพิ่มความแข็งแรง และกลุ่มคอสเมติก เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดคอลลาเจนที่มีมูลค่าตลาดรวมทั้งประเทศประมาณ 4,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันการทำการตลาดที่รุนแรง และมีคู่แข่งที่มีมากขึ้นในท้องตลาด บริษัทมองว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะจะชูจุดแข็งของสินค้าที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย โดยในปีนี้คาดว่าธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่องจากเดิมยอดขาย 3 แสนกล่อง/เดือน ขยายตัวมาเป็น 7 แสนกล่อง/เดือน จึงทำให้บริษัททุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ขยายโรงงานการผลิตที่ จ.ปทุมธานี เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง และจะทุ่มงบประมาณการตลาดกว่า 60-80 ล้านบาทในการทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อกระตุ้นยอดขาย


กำลังโหลดความคิดเห็น