xs
xsm
sm
md
lg

ทล.ศึกษาวางแนวมอเตอร์เวย์สายชลบุรี-หนองคาย เร่งเฟสแรกเชื่อมแหลมฉบัง-ปราจีนบุรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมทางหลวงเผยสำรวจและออกแบบวางแนวมอเตอร์เวย์สายชลบุรี-หนองคาย ตอนท่าเรือแหลมฉบัง-ปราจีนบุรี ตอน 1 ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ระยะทางรวม 64.95 กม.เสร็จ มี.ค.นี้ ก่อนจะเดินหน้าทางวิศวกรรมและก่อสร้างต่อไป เผยโครงข่ายลอจิสติกส์เชื่อมภาคอีสานกับท่าเรือแหลมฉบังเชื่อมการค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านสะดวก

รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน กรมทางหลวงได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษ สายชลบุรี-หนองคาย ตอนชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง) - ปราจีนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 359) ตอน 1 ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ในแผนพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายชลบุรี-หนองคาย เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ตามแนวเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ มีศักยภาพในการรองรับด้านคมนาคมและการขนส่งจากภูมิภาคตะวันออกที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ประกอบกับมีท่าเรือแหลมฉบังซึ่งถือเป็นประตูการค้าที่สำคัญระดับประเทศไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ พื้นที่ศึกษางานสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษ สายชลบุรี-หนองคาย ตอน ชลบุรี (ท่าเรือแหลมฉบัง) - ปราจีนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 359) ตอน 1 ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 ระยะทางรวม 64.95 กิโลเมตร แบ่งพื้นที่การศึกษาออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

- ตอนที่ 1 ส่วนที่ 1 มีจุดเริ่มต้นที่ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จุดสิ้นสุดที่บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 331 กม.19+500 ต.เข้าคันทอง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ระยะทางรวม 20.45 กิโลเมตร แนวเส้นทางผ่านพื้นที่ จ.ชลบุรี 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางละมุง และอำเภอศรีราชา

- ตอนที่ 1 ส่วนที่ 2 มีจุดเริ่มต้นที่บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 331 กม.ที่ 19+500 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จุดสิ้นสุดที่ทางหลวงหมายเลข 3340 กม.ที่ 64+000 บริเวณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ระยะทางรวม 44.5 กิโลเมตร แนวเส้นทางผ่านพื้นที่ จ.ชลบุรี 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีราชา, อำเภอบ้านบึง, อำเภอหนองใหญ่ และอำเภอบ่อทอง

สำหรับรูปแบบการก่อสร้างได้กำหนดให้เป็นทางหลวงพิเศษขนาด 4-8 ช่องจราจร คาดว่าจะสำรวจแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2561 หลังจากนั้นกรมทางหลวงจะดำเนินการศึกษาด้านวิศวกรรม, ด้านการจราจรและขนส่ง, ด้านสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจด้วยเส้นทางการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้การขนส่งสินค้ามีความสะดวก รวดเร็ว ทันเวลา สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ ช่วยเสริมศักยภาพการเดินทางและการขนส่งระหว่างภูมิภาคและระหว่างประเทศให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย สามารถกำหนดเวลาได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งการเดินทางและการขนส่งสินค้า ตลอดจนลดปริมาณเชื้อเพลิง เป็นการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและช่วยบรรเทาปัญหาจราจรและอุบัติเหตุ สอบถามข้อมูลโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่ www.thaimotorwaylaemchabang-prachinburi.com หรือโทร. 0-2948-6014-8





กำลังโหลดความคิดเห็น