เอเชียกรีน เอนเนอจี แจ้งผลการดำเนินงานปี 60 โชว์ยอดขายถ่านหิน 2.54 ล้านตัน ส่งผลรายได้รวม 5,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% กำไรสุทธิ 120 ล้านบาท ลดลง 21% เป็นผลมาจากการขาดทุนทางอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 1/60 ล่าสุด บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นหุ้น งวดปี 2560 ในอัตราส่วน 10:1 ด้านผู้บริหารตั้งเป้ารายได้รวมปี 61 โต 20-25% ลุยตลาดถ่านหิน เวียดนาม และการขยายตลาดในประเทศที่ตุนออเดอร์ยาวถึงไตรมาส 2/61 พร้อมขยับฐานธุรกิจลอจิสติกส์ขนส่งทางน้ำ ภานในไตรมาส 2/61 จ่อรับมอบเรือลำเลียง 4 ลำ และสั่งต่อเพิ่มอีก 10 ลำทันที
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 5,931.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 5,785.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิอยู่ที่ 120.51 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.60% เนื่องจากการขาดทุนทางอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงไตรมาส 1 ปี 2560
รายได้รวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายตลาดในประเทศ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบจากปีก่อน โดยยอดขายในประเทศอยู่ที่ 2.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12.6 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สิ้นปี 2560 บริษัทฯ มีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ อยู่ที่ 2.54 ล้านตัน และมีรายได้จากธุรกิจการให้บริการอยู่ที่ 146.68 ล้านบาท คิดเป็น 2.47% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 242. 30% จากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิปรับตัวลดลง เนื่องจากมีผลขาดทุนทางอัตราแลกเปลี่ยนที่ 37.20 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2559 มีผลกำไรทางอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 9.27 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯมีการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนการขนส่ง และคลังสินค้า โดยในปี 2560 บริษัทฯ มีการให้บริการขนส่งทางน้ำ โดยเรือลำเลียง ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าได้หลากหลาย ทั้งสินค้าเกษตร และถ่านหิน จำนวน 8 ลำ และการจัดตั้งบริษัท ขนส่งสินค้าทางบก ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 70% ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการขนส่ง ทั้งทางน้ำ และทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้า ในปี 2560 จำนวน 146.68 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่โดดเด่น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงด้านรายได้ของบริษัทฯ ในอนาคต
“ในปี 60 บริษัทฯ มีการทำกลยุทธ์ โดยการเจาะตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวียดนาม เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย นอกเหนือจากตลาดในประเทศ โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทในประเทศเวียดนาม เพื่อรุกตลาดในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยได้มีการลงทุนสร้าง คลังสินค้า และโรงงานคัดร่อน ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้เริ่มประกอบกิจการในช่วงปลายปี 2560” นายพนม กล่าว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น ในงวดปี 2560 ในอัตรส่วน 10:1 และเงินสดในอัตรา 0.0015 ต่อหุ้น โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 14 มีนาคม 2561 และวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล วันที่ 13 มีนาคม 2561 เพื่อจ่ายปันผลวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนลงทุน จัดทำเรือลำเลียง และปรับปรุงพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มเติม
บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมในปี 2561 อยู่ที่ 20-25% โดยตั้งเป้ายอดขายถ่านหินทั้งปีที่ระดับ 3 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 2561 จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% และในประเทศจะอยู่ที่ 70% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่สัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะอยู่ที่ 17% และในประเทศอยู่ที่ 83% และจากกการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม จีน เพิ่มขึ้น
ส่วนธุรกิจด้านลอจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้านั้น บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 5% ของรายได้รวม โดยภายในช่วงไตรมาส 2/2561 จะมีแผน รับมอบเรือลำเลียงเพิ่ม จำนวน 4 ลำ จากปัจจุบันที่มีเรือลำเลียง จำนวน 8 ลำ และมีแผนสั่งต่อเรือลำเลียงเพิ่มอีก 10 ลำ โดยหลังจากมีการส่งมอบเรือทั้งหมด จำนวนเรือของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 22 ลำ และสามารถรองรับความต้องการใช้บริการขนส่งทางน้ำของบรรดากลุ่มผู้ประกอบการเกือบทุกอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ