เอทีพี 30 กวาดรายได้ 347.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 26.25 ล้านบาท โตกระฉูด 19.70% ตามเป้าหมาย จากจำนวนรถให้บริการเพิ่มกว่า 60 คัน ลูกค้าเดิมใช้บริการเพิ่ม ฐานลูกค้าใหม่ขยายต่อเนื่อง เตรียมจ่ายปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวม 63% ของกำไรสุทธิ กำหนดจ่าย 30 เม.ย. 61 โชว์แผนธุรกิจทำนิวไฮ พัฒนาจุดแข็งรองรับการเติบโตภาคตะวันออก เผยรถหมดค่าเสื่อมรวม 35 คันในปีนี้ ดันมาร์จิ้นพุ่ง มั่นใจรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หรือ 420 ล้านบาท
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการ โดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2560 ว่า บริษัทมีรายได้จากการบริการ 347.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 300.78 ล้านบาท จำนวน 46.72 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 15.53% โดยมีกำไรสุทธิ 26.25 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.93 ล้านบาท จำนวน 4.32 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.70 %
ส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 4/60 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 95.44 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 77.18 ล้านบาท จำนวน 18.26 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 23.66% และมีกำไรสุทธิ 10.56 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.47 ล้านบาท จำนวน 7.09 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 204%
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทเติบโต เนื่องจากปี 2560 บริษัทมีจำนวนรถที่ให้บริการกับลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 60 คัน เพื่อให้บริการกับฐานลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ อีกทั้งมีรถที่หมดค่าเสื่อม จำนวน 8 คัน รวมถึงมีการบริหารจัดการในด้านต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ของบริษัทปรับตัวลดลง และมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 81.25 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 23.38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 71.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 23.85%
ขณะที่การประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2561 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 15.64 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62.96% ของกำไรสุทธิปี 2560 โดยจะทำการกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 12 เม.ย. 61 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30 เม.ย. 61 (ขออนุมัติจากประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 2 เม.ย. 61 )
สำหรับการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะสร้างการเติบโตทำนิวไฮทั้งรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งของบริษัทที่มีการพัฒนาระบบการดำเนินงานด้านการควบคุมการเดินรถตามมาตรฐานสากล ISO39001 การพัฒนาบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการที่ดี โดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถที่ให้บริการในปี 2561 อีก 40 คัน อีกทั้งในปีนี้จะมีรถที่หมดค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นอีกเป็น 35 คัน ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเดิมเติบโตตามอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาลงทุน และยังเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจรถขนส่งในรูปแบบอื่นเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณาความเป็นไปได้ มั่นใจว่าจากแผนการดำเนินงานและปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 20% หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 420 ล้านบาท และรักษาอัตราการทำกำไรไม่ต่ำกว่า 10%