ชีวาทัย วางเป้า 2 ปี เตรียมปรับสัดส่วนรายได้โครงการคอนโดมิเนียมให้อยู่ที่ 55%, โครงการแนวราบ พร้อมปูพรมธุรกิจปี 2561 เปิดตัว 7 โปรเจกต์ใหม่ทั้งแนวราบ-แนวสูง มูลค่า 5,915 ล้านบาท ขยายแผนการพัฒนาโครงการสู่รอบกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ โชว์งบปี 60 กำไร 155.50 ล้านบาท และรายได้รวม 2,042.42 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าภายใน 2 ปีนี้ เตรียมปรับสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมให้อยู่ที่ประมาณ 55%, โครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว, ทาวนโฮม) ให้อยู่ที่ประมาณ 40% และรายได้จากโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่าอีก 5% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 90% และโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 10%
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯมีแผนจะเปิดโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ และอีก 2 โครงการร่วมทุน คิดเป็นมูลค่า 5,915 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการ “ชีวาทัย เรสซิเดนท์ ทองหล่อ” (ทองหล่อ 20) ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 155 ยูนิต มูลค่า 950 ล้านบาท, 2. โครงการ “ฮอลล์มาร์ค เกษตรนวมินทร์” ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมมิดไรส์ จำนวน 480 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท, 3. โครงการ “ชีวาวัลย์ พุทธมณฑล สาย 1” แบรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 53 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ยที่ 19 ล้านบาท มูลค่า 1,200 ล้านบาท, 4. โครงการ “ชีวา โฮม รังสิต-คลอง 4” แบรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นโครงการทาวน์โฮม ขนาด 275 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ยที่ 2.5-3 ล้านบาท มูลค่า 700 ล้านบาท 5. โครงการ “ชีวา โฮม ประชาอุทิศ 90” เป็นโครงการทาวน์โฮม ขนาด 391 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2.1-2.49 ล้านบาท มูลค่า 890 ล้านบาท 6. โครงการ “ชีวา ฮาร์ท สุขุมวิท” ซึ่งเป็นทาวน์โฮม ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 62/1 มูลค่าโครงการ 160 ล้านบาท และ 7. โครงการ “ชีวา ฮาร์ท ทองหล่อ” ซึ่งเป็นทาวน์โฮม ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 36 มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท
“ปีนี้ถือเป็นปีที่ 10 ในการดำเนินธุรกิจของ CHEWA ซึ่งรวมแล้ว เรามีโครงการกว่า 15 โครงการที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่เลือกอยู่อาศัยภายใต้โครงการของเรา ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ และส่งมอบผลิตภัณฑ์ ตลอดจนบริการให้อยู่เหนือความพึงพอใจของลูกค้า ตอกย้ำแนวคิด “Build a life” เป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในใจของผู้บริโภค ใส่ใจในทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า ผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งวิเคราะห์ถึงความต้องการ ตอบโจทย์การอยู่อาศัย เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้อาศัยในสังคมปัจจุบัน ซึ่งบริษัทพร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการทั้งในส่วนของแนวราบ และแนวสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2560 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560) ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยว่ามีกำไรสุทธิ 155.50 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 63.08 ล้านบาท หรือคิดเป็น 146.51% เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,042.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 841.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70.09% เมื่อเทียบจากปีก่อนมีรายได้รวม 1200.72 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้มาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ 2,013.68 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้เช่าโรงงานและค่าบริการ จำนวน 19.58 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ จำนวน 7.73 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะรายได้ไตรมาส 4/2560 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ถึงจำนวน 1,203.77 ล้านบาท มากกว่ารายได้รวมของทั้งปี 2559
ส่วนทิศทางธุรกิจปี 2561 ของบริษัทฯ เชื่อว่า ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 2560 โดยมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1,500 ล้านบาท