“สนพ.” เร่งเครื่องผุดปั๊มชาร์จอีวี รองรับหลังเทรนด์โลกและไทยเริ่มมาแรงใช้รถอีวีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเตรียมอัดงบ 20 ล้านบาท จากองทุนอนุรักษ์ฯ เปิดรอบ 5 ให้ผู้สนใจทำปั๊มอีวียื่นสมัคร 1-30 มี.ค.นี้ หวังเกิดปั๊มอีวี 150 ครบในปีนี้ ด้านสมาคมยานยนต์ยื่นเลขาฯ อีอีซีหวังหนุนผู้ซื้อรถอีวีนำมาหักลดหย่อนภาษีได้เพื่อกระตุ้นตลาดและการผลิต
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)เปิดเผยว่า ขณะนี้แนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ทั่วโลกมากกว่า 2 ล้านคันโดยเป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ 1.2 ล้านคัน ขณะที่ไทยได้ตั้งเป้าหมายให้เกิดยานยนต์ไฟฟ้า 1.2 ล้านคันภายในปี 2579 ทั้งแบบปลั๊กอินไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ โดยปัจจุบันไทยมีการใช้รถอีวีแล้ว 103,702 คัน ซึ่งอนาคตจำนวนรถอีวีส่วนบุคคลจะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ที่ผ่านมา สนพ.จึงได้มอบหมายให้สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าให้ดำเนินโครงการสนับสนุนการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) สำหรับหน่วยงานราชการ เอกชน รัฐวิสาหกิจโดยตั้งเป้าหมายให้ได้ 150 แห่งในปี 2561 ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้หน่วยงานต่างๆ ยื่นขอรับสนับนุนแล้ว 4 รอบรวม 94 หัวจ่ายและเตรียมเปิดรอบที่ 5 ระหว่างวันที่ 1-30 มี.ค.นี้
“โครงการดังกล่าวได้รับงบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเพื่อทำให้เกิดปั๊มชาร์จไฟสำหรับรองรับรถอีวีโดย 4 รอบที่เปิดได้มีการยื่นขอรับสนับสนุน 94 หัวจ่าย แบ่งเป็นแบบธรรมดา 60 หัวจ่าย แบบเร่งด่วน (ควิกชาร์จ) 34 หัวจ่าย ส่วนใหญ่ที่ยื่นเป็นห้างสรรพสินค้า และรอบที่ 5 ระยะที่ 1 จะเปิดรับสมัคร 1-30 มี.ค.จะส่งเสริม 31 หัวจ่าย โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือ 30% ของราคาหัวจ่ายคาดใช้งบรวม 20 ล้านบาท ระยะที่ 2 จะเปิดต่อไปเพื่อให้เกิดอีก 25 หัวจ่ายเงินสนับสนุน 20% เพื่อให้ครบ 150 หัวจ่ายตามเป้า” นายทวารัฐกล่าว
สำหรับส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งชะลอการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา นั้น ล่าสุดนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน ได้สั่งการให้เร่งปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2015) โดยเร็วเพื่อให้เกิดความชัดเจนและนำเสนอกระทรวงพลังงานพิจารณาก่อนวันที่ 31 มี.ค.
นายยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้สมาคมฯ ได้เสนอไปยังนายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กนศ.) ถึงแนวทางการสงเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซี โดยให้รัฐบาลพิจารณาให้ผู้ซื้อรถอีวีมาหักลดหย่อนภาษีได้เหมือนกรณีภาษีบ้าน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยจูงใจการใช้ที่เพิ่มขึ้น
“อีวีเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซีที่รัฐต้องการให้เกิดการลงทุนหากดีมานด์เกิดขึ้นมากก็จะช่วยได้มากขึ้นโดยในส่วนของการลงทุนก็พบว่ามีเอกชนสนใจมากทั้งผู้ผลิตรถ และการนำเข้าเช่นล่าสุดมีบริษัท RiZEN จากจีนที่จะนำเข้ารถแท็กซี่อีวีแบรนด์ BYD มาทำตลาดในไทยปีนี้ราว 500 คัน และยังมีเอกชนอีกรายที่ยังเปิดเผยไม่ได้จะทำปั๊มอีวีเพิ่มอีกด้วยซึ่งปัจจุบันมีปั๊มอีวีรวมทั่วประเทศ 229 หัวจ่ายเป็นของรัฐ 184 หัวจ่ายที่เหลือเป็นเอกชน” นายยศพงษ์กล่าว