xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” นัดประชุมแก้ปัญหาปาล์ม เร่งส่งออก-เพิ่มปริมาณใช้ในประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สนธิรัตน์” เรียกประชุมคณะอนุกรรมการปาล์ม 7 ธ.ค. หารือแก้ปัญหาสต๊อกล้น จนกระทบราคาผลปาล์มดิบ เตรียมเร่งผลักดันส่งออก และเพิ่มปริมาณการใช้ภายในประเทศ

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันที่ 7 ธ.ค. 2560 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เพื่อหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มในสต๊อกที่มีสูงถึง 5.19 แสนตัน โดยเบื้องต้นจะเสนอให้เร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปยังตลาดต่างประเทศ และกระตุ้นให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศให้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ ในด้านการส่งออกขณะนี้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ได้ทยอยส่งรายชื่อประเทศที่จะผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเสนอเข้ามาที่กระทรวงพาณิชย์แล้ว และในด้านการเพิ่มปริมาณการใช้ในประเทศ จะเชิญตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และกรมธุรกิจพลังงาน มาหารือว่าจะเพิ่มความต้องการใช้ในส่วนไหนได้บ้าง โดยเฉพาะการเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มดิบสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่

“ถ้าเร่งผลักดันส่งออกได้ และเพิ่มปริมาณการใช้ในประเทศ จะทำให้ปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือ และจะช่วยทำให้ราคาผลปาล์มดิบที่เกษตรกรขายได้มีราคาดีขึ้น เพราะไม่มีปัจจัยกดดัน” นายบุณยฤทธิ์กล่าว

นายบุณยฤทธิ์กล่าวว่า สำหรับราคาผลปาล์มปัจจุบัน ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2560 ผลปาล์มน้ำมัน (18%) กิโลกรัม (กก.) ละ 3.20-3.60 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 19.00-19.25 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซีย (1 ธ.ค. 2560) กก.ละ 19.99 บาท โดยราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มลดลงนับตั้งแต่ ก.พ.เป็นต้นมา เพราะปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น ประกอบกับโรงกลั่นมีสต๊อกน้ำมันปาล์มคงเหลือมากกว่าความต้องการใช้ในแต่ละเดือน รวมทั้งภาวะการค้าน้ำมันปาล์มขวดชะลอตัว ทำให้ปริมาณการสั่งน้ำมันปาล์มจากโรงงานสกัดลดลงและซื้อราคาลดต่ำลง จึงส่งผลถึงผลปาล์มน้ำมัน

ส่วนกระแสข่าวที่มีการระบุว่ามีการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองจากบราซิลและสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษี เพื่อนำมาสกัดน้ำมันแข่งกับน้ำมันปาล์มนั้น กระทรวงพาณิชย์ขอชี้แจงว่า ในปี 2560 ไทยมีการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองเพียงเล็กน้อย ส่วนเมล็ดถั่วเหลืองมีการนำเข้ามาใช้ผลิตอาหารสัตว์และแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารเป็นหลัก ซึ่งการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองในปี 2560 ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2560) มีจำนวน 2.15 ล้านตัน เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันกับปี 2559 ลดลง 2.17%

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทูตพาณิชย์ได้ทยอยส่งตลาดที่มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มเข้ามาให้แล้ว โดยจะผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบทั้งตลาดเดิม เช่น จีน อินเดีย และตลาดใหม่ เช่น ยุโรป และตุรกี เป็นต้น ซึ่งสามารถดำเนินการได้เลย และจะแจ้งข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ภาคเอกชนส่งที่ออกน้ำมันปาล์มดิบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น