“อารีพงศ์” เผยเตรียมหารือร่วมปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 4 กระทรวง ทั้งพลังงาน อุตฯ พาณิชย์ เกษตรฯ บูรณาการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มให้ยั่งยืนสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ และตอบโจทย์แผนการใช้น้ำมันในอนาคต เผยเพิ่มบี 7 และให้ผู้ค้าน้ำมันสต๊อกบี 100 เพิ่มดันราคาปาล์มเริ่มขยับแล้ว
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์จะมีการหารือบูรณาการกับปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 4-5 กระทรวง เช่น พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ และอุตสาหกรรม เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาปาล์มทั้งระบบ โดยเฉพาะการทำให้ราคาปาล์มในประเทศมีเสถียรภาพและยั่งยืนในอนาคตตามนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมาย โดยยอมรับว่าขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วงคือราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของไทยกับมาเลเซียมีส่วนต่างราคาที่เพิ่มมากขึ้น
“ท่านนายกฯ ต้องการให้บูรณาการในเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้ทำมาต่อเนื่องแต่ต้องมองไปข้างหน้าด้วย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ เองก็ต้องชัดเจนเรื่องของพื้นที่ปลูกพืชพลังงานว่าจะมีระดับไหน พาณิชย์เองก็ต้องบริหารจัดการระบบปาล์มให้มีประสิทธิภาพ กระทรวงอุตสาหกรรมดูในเรื่องของการอนุญาตโรงสกัด เป็นต้น ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีขณะนี้ที่กระทรวงเกษตรฯ กำลังออก พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมัน พ.ศ.....ที่จะทำให้ราคาของไทยสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้” นายอารีพงศ์กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของแผนการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลตามแผนบริหารจัดการน้ำมัน (OIL PLAN) และแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2015) ปี 2558-79 กำหนดที่จะเพิ่มการใช้บี 100 ผสมในดีเซล 7% (บี 7) เพิ่มขึ้นเป็น 10-20% (บี 10-บี 20) ในช่วงปลายแผน AEDP ซึ่งจะทำให้การใช้ไบโอดีเซล (บี 100)เพิ่มจาก 4 ล้านลิตรต่อวันเป็น 14 ล้านลิตรต่อวันนั้นเป็นตัวเลขที่สูงมาก ขณะที่รถยนต์เองไม่พร้อมที่จะเพิ่มสัดส่วนจากบี 7 ไปเป็นบี 10 ประกอบกับราคาน้ำมันที่ต่ำทำให้แผนนี้จำเป็นต้องปรับ โดยคงจะทำได้เพียงบี 7 ตลอดแผนเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การใช้บี 100 อยู่ที่เพียง 10 ล้านลิตรต่อวันไม่ถึงเป้าหมาย 14 ล้านลิตรต่อวัน
ทั้งนี้ จากสต๊อก CPO ปีนี้ที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.5 แสนตันที่เหมาะสมที่เพียงพอต่อการใช้น้ำมันปาล์มและน้ำมันที่บริโภคเพิ่มเป็นเกือบ 4 แสนตันซึ่งเกินจากปกติระดับ 1.8 แสนตัน แนวทางแก้ไขราคาปาล์มตกต่ำที่ผ่านมาจึงร่วมบูรณาการ และพาณิชย์แจ้งให้กระทรวงพลังงานเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลจากบี 5 เป็นบี 7 ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 2560 ทำให้สามารถดูดซับ CPO เพิ่มขึ้น 5-10% พร้อมกันนี้ ได้ให้ผู้ค้าน้ำมันสต๊อกบี 100 มาสำรองเพิ่มจาก 8 บริษัทที่มีอยู่ 50 ล้านลิตรเป็น 80 ล้านลิตรในสิ้นเดือน มิ.ย. และจะผลักดันให้เป็น 100 ล้านลิตรในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะดูดซับ CPO ส่วนเกิน 25%
ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าโรงสกัดและโรงกลั่นก็พร้อมที่จะรวมตัวกันส่งออก ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ราคาปาล์มทั้งระบบดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนการนำน้ำมันปาล์มมาเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้ากระบี่นั้นขณะนี้ยังคงไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงจะกระทบต่อค่าไฟฟ้าได้
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า ราคาปาล์มทั้งระบบขณะนี้เริ่มดีขึ้น โดยราคาทะลายปาล์มปรับขึ้นจาก 3.30 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) มาเป็น 4.30 บาทต่อ กก. ราคา CPO ปรับขึ้นจาก 22.90 บาทต่อลิตร เป็น 23.75 บาทต่อลิตร บี 100 ราคาเริ่มลดลงเฉลี่ย 22-23 บาทต่อลิตรจากที่ผ่านมา 25-26 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคา CPO ของมาเลเซียขณะนี้อยู่ที่ 20.95 บาทต่อลิตร ราคาปาล์มใกล้เคียงกับไทยชี้ให้เห็นว่าประสิทธิภาพเรื่องต้นทุนการผลิตของมาเลเซียนั้นต่ำกว่าไทยมาก