xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” คาดต้นปี 61 ปัญหาน้ำมันปาล์มดิบล้นสต๊อกคลี่คลาย หลังเร่งส่งออก เพิ่มทำไบโอดีเซล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” คาดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบกลับเข้าสู่ภาวะปกติช่วงต้นปี 61 หลังดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบช่วง 3 เดือนถึง 2 แสนตัน และให้พลังงานดูดซับไปอีก 1.5 แสนตัน พร้อมโต้ราคาไม่ได้ตกเหลือกิโลกรัมละ 2.8-2.9 บาท เกษตรกรยังขายได้ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ที่กิโลกรัมละ 3.3-3.4 บาท

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายในต้นปี 2561 คาดว่าสถานการณ์น้ำมันปาล์มจะคลี่คลาย โดยราคาผลปาล์มน่าจะปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มที่มีสูงถึง 5.19 แสนตัน ซึ่งมีในสต๊อกมากเกินกว่าระดับปกติที่ 2-3 แสนตัน โดยขณะนี้ผู้ส่งออกได้รายงานแผนการส่งออกน้ำมันปาล์มว่าในช่วงเดือน ธ.ค. 2560-ม.ค. 2561 จะส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 1.3 แสนตัน และในเดือน ก.พ.อีก 7 หมื่นตัน รวมเป็น 2 แสนตัน ตามเป้าหมายการผลักดันส่งออก

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังได้ร่วมมือที่จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มออกจากสต๊อก โดยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไบโอดีเซล 1 แสนตัน และเร่งเพิ่มกำลังการผลิตไบโอดีเซลให้เต็มศักยภาพที่จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบออกจากสต๊อกได้อีก 5 หมื่นตัน

“ขณะนี้ผลปาล์มดิบที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 3.3-3.4 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ไม่ได้ลดลงไปเหลือ 2.8-2.9 บาทต่อ กก. ซึ่งราคาดังกล่าวน่าจะเป็นปาล์มที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันไม่ถึง 18% โดยกระทรวงพาณิชย์พยายามผลักดันให้เกษตรกรตัดปาล์มขายในเปอร์เซ็นต์ 18% จะทำให้ได้ราคาขายผลปาล์มดิบที่ราคาสูงขึ้น” นางนันทวัลย์กล่าว

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงกรณีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรังให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันล้นสต๊อกอยู่ ทั้งการผลักดันส่งออก และให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) หารือกับเกษตรกรและโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายผลปาล์มได้ราคาดีขึ้น รวมทั้งได้ประสานหน่วยงานความมั่นคง และศุลกากร ให้เข้มงวดป้องกันการลักลอบนำเข้าเพื่อป้องกันไม่ให้เพิ่มปริมาณน้ำมันปาล์มในสต๊อก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ราคาผลปาล์มสดหรือปาล์มทะลายยังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคารับซื้อปาล์มทะลายบางจังหวัด ณ ลานเท (จุดรวบรวมเพื่อนำไปขายต่อให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ) เช่น จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 2.70-2.90 บาทเท่านั้น โดยราคา ณ ลานเท เป็นราคาซื้อขายจริงที่เกษตรกรส่วนใหญ่ขายได้ เพราะชาวสวนปาล์มส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ไม่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกผลผลิตไปขายหน้าโรงงาน จึงนิยมขายให้กับลานเทที่กระจายอยู่ทั่วไป แต่เมื่อลานเท รวบรวมผลผลิตจากเกษตรกร นำไปขายที่โรงงานแล้ว โรงงานจะเพิ่มค่าขนส่งให้อีกประมาณ กก.ละ 30 สตางค์ ทำให้ราคารับซื้อ ณ หน้าโรงงานเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 3.00-3.30 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น