“พาณิชย์” เผย พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่บังคับใช้ 5 ต.ค.นี้มั่นใจคุมธุรกิจรายใหญ่เอาเปรียบรายเล็กได้ดีขึ้น เหตุการพิจารณาเรื่องร้องเรียนทำได้เร็วขึ้น ช่วยสร้างความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ ลบภาพเสือกระดาษได้แน่ ระบุการเมืองและภาคธุรกิจยังไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงได้หลังถูกดันเป็นองค์กรอิสระ ขณะที่โทษก็เข้มขึ้น ทำผิดปรับได้ทันที จากเดิมเป็นคดีอาญาอย่างเดียว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ที่ปรับปรุงแก้ไขจาก พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป หลังจากได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยมั่นใจว่ากฎหมายฉบับใหม่จะมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้ได้ดีขึ้น ป้องกันพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ เพราะการพิจารณาข้อร้องเรียนของภาคธุรกิจทำได้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจ รายใหญ่จะทำธุรกิจอย่างเป็นธรรม รายเล็กแข่งขันได้ดีขึ้น สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ กลไกตลาด และการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายใหม่ ได้แก่ กำหนดให้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (บอร์ด) มาจากวิธีการสรรหา เพื่อแก้ปัญหาแทรกแซงจากการเมือง และการครอบงำของกลุ่มธุรกิจ ซึ่งกำหนดให้มีคณะกรรมการสรรหา 9 คนที่มาจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสรรหากรรมการที่จะมาเป็นบอร์ด จำนวน 7 คน และยังกำหนดให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เป็นหน่วยงานที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นองค์กรที่มีความอิสระ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและรวดเร็วขึ้น โดยมีเลขาธิการเป็นผู้บริหาร
ทั้งนี้ ในระหว่างการสรรหาบอร์ดชุดใหม่ กฎหมายกำหนดให้บอร์ดชุดปัจจุบันรักษาการต่อได้อีก 270 วัน นับจากวันที่ 5 ต.ค. 2560 หรือรักษาการจนถึงวันที่ 1 ก.ค. 2561 และให้อธิบดีกรมการค้าภายในรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานไปก่อน 450 วัน จนกว่าจะสรรหาเลขาธิการคนใหม่ได้
นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังได้ปรับปรุงโทษ โดยเพิ่มโทษทางปกครอง เช่น โทษปรับ จากเดิมที่มีเพียงโทษทางอาญา และยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เช่น ลดขั้นตอนการพิจารณา ลดหย่อนโทษ เอาผิดแก่การกระทำนอกราชอาณาจักร เป็นต้น รวมถึงเอาผิดกรณีการร้องเรียนที่เป็นเท็จ ส่วนกรณีที่เป็นคดีฟ้องร้องให้ส่งศาลคดีทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นศาลคดีเศรษฐกิจ ที่มีขั้นตอนพิจารณารวดเร็วกว่าคดีอาญา
ขณะเดียวกัน กฎหมายใหม่ยังได้เพิ่มเกณฑ์การควบรวมกิจการ โดยธุรกิจสามารถดำเนินการได้เลย แต่ต้องแจ้งให้สำนักงานแข่งขันทางการค้าทราบภายใน 7 วันหลังควบรวมแล้ว แต่หากควบรวมแล้วธุรกิจนั้นเข้าเกณฑ์การเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาดและผูกขาดตลาด ต้องมาขออนุญาตก่อนควบรวม หากฝ่าฝืนไม่แจ้งก่อนจะมีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท และปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท และหากไม่ขออนุญาตก่อนควบรวม ต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกิจภายหลังควบรวมแล้ว และภายหลังหากมีอำนาจเหนือตลาด แล้วใช้อำนาจเหนือตลาดจำกัดการแข่งขันจะมีโทษใหม่ คือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด จากโทษเดิมที่จำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 มีช่องโหว่ในการบังคับใช้หลายประเด็น โดยเฉพาะการพิจารณากรณีร้องเรียนที่ใช้เวลานานมาก เพราะมีคณะอนุกรรมการ และคณะกรรมการหลายชุด บางครั้งทำให้หมดอายุความก่อนส่งอัยการฟ้อง จึงไม่สามารถลงโทษธุรกิจที่ทำผิดกฎหมายได้นับตั้งแต่บังคับในปี 2542 เป็นต้นมา ส่วนกรณีร้องเรียนในปัจจุบัน ที่ประชุมบอร์ดแข่งขันทางการค้า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2560 มีมติให้เร่งรัดพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพราะบางเรื่องได้สอบสวนและหาข้อมูลแล้วถึง 80% แต่แนวโน้มส่วนใหญ่ยังยากที่จะเอาผิดตามกฎหมายเดิม