กกต.ด้านสืบสวน เปิดอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนและไต่สวนระดับกลาง เตรียมพร้อมควบคุมการเลือกตั้ง เผย กกต.คุยกันพร้อมจับทุจริตเลือกตั้ง ติวเข้ม- ติดดาบ จนท.กลายเป็นยักษ์มีกระบอง ไม่ใช่เสือกระดาษ เร่งทำ MOU เชื่อมข้อมูลผู้สมัคร หัวคะแนน ให้รวดเร็ว
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เป็นประธานปิดการอบรมหลักสูตรสืบสวนสอบสวนและไต่สวน ระดับกลาง รุ่นที่ 2 หลักสูตรที่ กกต.กำหนดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่ด้านสืบสวนสอบสวนและนิติกรของสำนักงาน กกต.ทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัดที่มีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 6 ปี จำนวน 120 คน สำหรับเตรียมความพร้อมในการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม และพัฒนาระบบงานการข่าวควบคู่ไปด้วย โดยการจัดเก็บข้อมูลตัวแทนและหัวคะแนน พร้อมประเมินความเสี่ยงในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนจัดตั้งแหล่งข่าวและเครือข่ายการข่าวไว้ทั่วประเทศกว่า 6,000 คน โดยการอบรมมีการสอนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุติจากหน่วยงานต่างๆ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครองสูงสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรมสืบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรยายให้ความรู้
นายบุญส่งกล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ถือมีความสำคัญมากต่อการป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของ กกต.เพราะการสืบสวนและไต่สวนเป็นกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีเลือกตั้งเพื่อประกอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของ กกต. เนื่องจากเป็นการให้ความเป็นธรรมทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง ดังนั้น บุคลากรจะต้องมีความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเทคนิค ทักษะในการสืบสวนและไต่สวน เพื่อจะได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนถูกต้อง ก่อนนำเสนอให้ กกต.วินิจฉัยชี้ขาดได้อย่างสมบูรณ์ ถูกต้อง และเที่ยงธรรม จึงขอให้ผู้เข้ารับการอบรมนำความรู้ไปปฏิบัติตามหน้าที่ของท่านตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้คนดีมีคุณธรรมมาทำหน้าที่ทางการเมืองต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลักสูตรดังกล่าวเป็นการเตรียมการไว้ตั้งแต่ยังไม่มีรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การควบคุมการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 ที่กำหนดให้ศาลฎีกานำสำนวนการสืบสวนไต่สวนของ กกต.มาเป็นหลักในการพิจารณา เนื้อหาหลักสูตรจึงมีความเข้มข้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ กกต.เข้าใจรูปแบบการทำงาน และทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ส่วนการเตรียมความพร้อมได้มีการจัดหาอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น กล้องส่องทางไกล กล้องติดกระดุม คอมพิวเตอร์แบบพกพา และยานพาหนะ
“จากความพร้อมทั้งหมด กกต.ไม่ได้เป็นเพียงเสือกระดาษ แต่เป็นยักษ์ที่มีกระบองแล้ว และขณะนี้ขาดแต่เพียงการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้สมัคร หัวคะแนน ว่าจะทำอย่างไรให้กระบวนการมีความรวดเร็ว ขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อทำความตกลงร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับสำนักงานกระทรวงยุติธรรม เพื่อร่วมมือดำเนินการ”