“อภิรดี” สั่งจัดเต็มรับมือผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดช่วงพีกเดือน ส.ค.นี้ ประสานโมเดิร์นเทรดและห้างรับซื้อผลผลิตกระจายผ่าน 2,800 สาขาทั่วประเทศ พร้อมมองพาณิชย์จังหวัดประสานระบายผลผลิตไปภาคอีสาน ภาคใต้ และขายผ่านตลาดต้องชม ตลาดกลาง ฟาร์มเอาต์เลต และเร่งดันส่งออก ด้าน “สนธิรัตน์” ปิ๊งไอเดีย ทาบ “ลำไย ไหทองคำ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยโปรโมตลำไยปีนี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่และห้างสรรพสินค้า ได้แก่ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร และท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมกว่า 2,800 สาขาทั่วประเทศ เตรียมรับซื้อผลผลิตลำไยจากแหล่งผลิต เช่น ลำพูน เชียงใหม่ ที่จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน ส.ค. ซึ่งถือเป็นช่วงพีก เพื่อนำไปจำหน่ายในสาขาของห้างเพื่อเร่งกระจายผลผลิตให้ได้โดยเร็ว และช่วยให้เกษตรกรสามารถขายลำไยได้ในราคาที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ยังได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในภูมิภาคที่ไม่มีลำไย เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ให้จัดหาสถานที่รองรับเพื่อจำหน่ายลำไย โดยประสานให้นำไปจำหน่ายในตลาดและร้านค้าที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน เช่น ตลาดต้องชม ตลาดกลาง และฟาร์ม เอาต์เลต ที่มีอยู่กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ และยังขอให้กรมการค้าภายในเข้าไปส่งเสริมให้ผู้รวบรวมผลไม้ (ล้ง) และวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพกว่า 500 ราย เข้าไปช่วยกระจายผลผลิตด้วย
ส่วนการหาตลาดส่งออกรองรับผลผลิตลำไย ขณะนี้มีผู้ซื้อลำไยจากต่างประเทศเริ่มเดินทางเข้ามาเจรจาซื้อขายลำไยแล้ว เช่น จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่มีข่าวดีที่รัฐบาลได้ออกใบอนุญาตนำเข้าให้แก่ผู้นำเข้ารายใหญ่ ทำให้เริ่มมีการสั่งซื้อลำไยเพื่อส่งออกไปยังอินโดนีเซียแล้ว และยังได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายลำไยผ่านทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ www.eastfruit.org และ www.thaicommercestore.com เป็นต้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในการทำตลาดผลไม้ลำไยปีนี้ กระทรวงฯ มีแนวคิดที่จะทาบทามนักร้องลูกทุ่ง “ลำไย ไหทองคำ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการจัดกิจกรรมโปรโมตผลไม้ลำไย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ขณะนี้ผลผลิตกำลังทยอยออกมา โดยรูปแบบการจัดกิจกรรมจะเหมือนกับการเชิญนักร้องชื่อดัง ทอม รูม 39 ในฐานะหน้ากากทุเรียนมาร่วมเปิดตัวการจัดกิจกรรมโปรโมตผลไม้ทุเรียนที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ ซึ่งตามแผนจะมีการจัดกิจกรรมโปรโมตอีก 4-5 ครั้ง เพื่อกระตุ้นการบริโภคลำไย
ขณะเดียวกัน จะทำการประสานไปยังร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นแห่ง และร้านค้าของชุมชนเคหะ ที่มีอยู่ประมาณ 600 แห่ง เพื่อขอความร่วมมือในการนำสินค้าลำไยจากเกษตรกรมากระจายผ่านร้านค้า ซึ่งจะทำให้ลำไยมีช่องทางในการจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น