กรมการค้าภายในกางมาตรการช่วยแก้ไขปัญหาลำไยราคาตกต่ำ เผยมีการดำเนินการทั้งในและต่างประเทศ เริ่มจากประสานห้างซื้อไปขาย นำขายผ่านตลาดสด ตลาดต้องชม หน่วยราชการ จัดโครงการกระตุ้นการบริโภค ดึงอำเภอ ราชทัณฑ์ช่วยซื้อ ขอความร่วมมือ ปตท.เปิดที่ในปั๊มให้เกษตรกรเอาลำไยมาขาย และทำการโปรโมตในตลาดจีน ประเทศเพื่อนบ้าน หวังเพิ่มความต้องการลำไยไทย
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำว่า กรมฯ ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือตั้งแต่ช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดจนถึงช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก และมีมาตรการที่ได้ดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ราคาหน้าสวนและจุดรับซื้อมีการปรับตัวสูงขึ้นจากเดิม ทำให้เกษตรกรจำหน่ายลำไยได้ราคาดีขึ้น
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้ราคาลำไยตกต่ำ เนื่องจากอินโดนีเซียออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าลำไยจากไทยช้า เพิ่งออกให้เมื่อปลายเดือน ก.ค. 2560 ซึ่งตามปกติจะออกให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.ของทุกปี ทำให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มการส่งออกได้ช้า แต่ปัจจุบันสามารถส่งออกได้แล้ว อีกทั้งในช่วงต้นเดือน ก.ค.ผู้ประกอบการโรงอบแห้งลำไยส่วนใหญ่ยังไม่เปิดรับซื้อเนื่องจากไม่มีคำสั่งซื้อจากจีน ทำให้มีการแข่งขันกันซื้อน้อยราย และการขาดแคลนแรงงานในการเก็บผลไม้และคัดบรรจุ
นางนันทวัลย์กล่าวว่า ในช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด กรมฯ ได้จัดทำสัญญาข้อตกลงระหว่างห้างสรรพสินค้าต่างๆ กับสถาบันเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนจังหวัดลำพูน รวม 2,000 ตัน ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2560 รวมทั้งเตรียมการกระจายผลผลิตไปยังตลาดปลายทางในจังหวัดต่างๆ โดยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ตลาดสด ตลาดต้องชม ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราชการ และในช่วงผลผลิตออกมาก ตั้งแต่กลางเดือน ก.ค. 2560 ได้เร่งกระจายผลผลิตลำไยเพิ่มขึ้น โดยกระจายผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ตลาดเป้าหมาย รวมทั้งสิ้น 45 แห่ง ได้แก่ ตลาดต้องชม 35 แห่ง ปริมาณ 105 ตัน และตลาดสด 10 แห่ง ปริมาณ 30 ตัน รวมเป็น 135 ตัน
ขณะเดียวกัน ได้จัดรณรงค์การบริโภคผลไม้ไทย (ลำไย) เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ไทย เช่น การจัดกิจกรรมการส่งเสริม ได้จัดงาน fruit festival ไปแล้ว 5 ครั้ง และจะจัดงานมหกรรมลำไย 108 เมนูลำไยไทย ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต นนทบุรี วันที่ 15–21 ส.ค. ห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต วันที่ 17-23 ส.ค. และห้างเซ็นทรัลอุดรธานี วันที่ 15-21 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ ได้ประสานงานขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้จังหวัดปลายทางประสานอำเภอทุกอำเภอช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยภาคเหนือ อย่างน้อยอำเภอละ 1 คันรถ (ประมาณ 3 ตัน) และมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้นๆ เป็นผู้ประสานงานหลักในการรับคำสั่งซื้อและส่งมอบผลผลิตให้แต่ละอำเภอตามคำสั่งซื้อ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. 2560 และประสานงานขอความร่วมมือกรมราชทัณฑ์ช่วยรับซื้อผลผลิตลำไยเพื่อเป็นอาหารว่างสำหรับนักโทษผู้ต้องหา อีกทั้งได้ประสานขอความร่วมมือ ปตท.ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือให้พื้นที่ให้เกษตรกรนำผลผลิตลำไยมาจำหน่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับตลาดต่างประเทศ ได้ให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) สอบถามถึงข้อมูลความต้องการ ช่องทางการตลาด แนวทางจัดกิจกรรมส่งเสริม (เร่งด่วน) รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ของผลไม้ลำไย โดย สคต.จะร่วมกับห้างโมเดิร์นเทรด ซูเปอร์มาร์เกต และผู้นำเข้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายลำไยไทย โดยมีเป้าหมายคือ จีน และประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประสานขอความร่วมมือสมาคม/ผู้ประกอบการสมาชิกของกรมฯ ให้ช่วยส่งเสริมการบริโภคผลไม้ ใช้ผลไม้ลำไยเป็นของขวัญ/ของชำร่วยแจกตามโอกาสต่างๆ อีกด้วย
ส่วนมาตรการอื่นๆ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดกระเช้าลำไยสวยงามมอบให้คณะรัฐมนตรีและแขก VIP ที่มาร่วมงาน Asean–India Expo & Forum รวมทั้งอยู่ระหว่างประสานการจัดคณะผู้บริหารระดับสูงเดินทางเยือนอินโดนีเซียเพื่อเจรจาเปิดตลาดลำไยเพิ่มเติมด้วย
“ขณะนี้ผลผลิตลำไยจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกสู่ตลาดแล้วร้อยละ 47 (จำนวน 63,030 ตัน) และจังหวัดลำพูนออกแล้วร้อยละ 53 (จำนวน 67,805 ตัน) มีการกระจายลำไยสดช่อออกสู่ตลาดภายในประเทศปริมาณเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีคำสั่งซื้อของประเทศจีน อินโดนีเซีย และเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาปรับตัวดีขึ้น” นางนันทวัลย์กล่าว