xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” โชว์แผนช่วย “ลำไย-มังคุด” เตรียมหาตลาดในประเทศรองรับและส่งออกไปต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สนธิรัตน์” โชว์แผนรับมือผลไม้ เตรียมหาตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ เผยจะเร่งผลักดันส่งออกลำไยไปอินเดีย เกาหลี และรัสเซีย นอกเหนือจากตลาดจีน หาตลาดให้เกษตรกรนำมังคุดไปขายผ่านสถานที่ราชการ ปั๊ม ปตท. และตลาดสด พร้อมมอบทูตพาณิชย์นำผู้ซื้อมาซื้อผลไม้ถึงที่ไม่ต้องผ่านล้ง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนรับมือผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด หลังจากที่ผลไม้ภาคตะวันออกได้ทยอยออกสู่ตลาดเกือบหมดแล้ว โดยขณะนี้เป็นช่วงผลผลิตลำไยภาคเหนือกำลังออกสู่ตลาด ซึ่งกระทรวงฯ ได้เตรียมแผนรับมือทั้งการเร่งระบายผลผลิตจากแหล่งผลิต การหาตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่น อินเดีย เกาหลี และรัสเซีย นอกเหนือจากตลาดจีนที่เป็นตลาดเดิมของไทย และจะผลักดันการส่งออกทั้งในรูปลำไยสดและแปรรูป

ทั้งนี้ ยังมีแผนที่จะเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรและวิสาหกิจชุมชนในแหล่งเพาะปลูกให้นำลำไยไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น ลำไยอบแห้งสีทอง ไวน์ลำไย เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าที่ตลาดมีความต้องการ และได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปเร่งรัดให้อินโดนีเซียออกใบอนุญาตนำเข้าลำไยโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการเร่งซื้อลำไยเก็บเพื่อส่งออกต่อไป

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า สำหรับมังคุดที่มีปัญหาราคาตกต่ำในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นเพราะผลผลิตมังคุดภาคตะวันออกออกล่าช้ากว่าปกติ และเมื่อมาชนกับมังคุดใต้ที่ออกมาในช่วงเดียวกันก็เลยกระทบต่อราคา แต่ขณะนี้มังคุดภาคตะวันออกออกสู่ตลาดเกือบหมดแล้ว ทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้น โดยราคามังคุดภาคตะวันออกเกรดคละอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 12-13 บาท เกรดส่งออก กก.ละ 19-20 บาท มังคุดใต้ เกรดคละ กก.ละ 10-19 บาท เกรดส่งออก กก.ละ 33-41 บาท

ส่วนการเตรียมแผนรับมือมังคุดใต้ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ประสานระบายผลผลิตมังคุดออกสู่ตลาด โดยจะจัดสถานที่ให้เกษตรกรนำมังคุดไปจำหน่ายโดยตรง เช่น สถานที่ราชการ สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และตลาดสด เป็นต้น

นอกจากนี้ กระทรวงฯ มีแผนที่จะนำคณะผู้ประกอบการไทยออกไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดให้กับผลไม้ไทย และนำคณะออกไปเจรจาหาตลาดยังประเทศเป้าหมาย รวมถึงการนำคณะผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้ามาซื้อผลไม้ไทยโดยตรงโดยที่ไม่ต้องซื้อผ่านผู้รวบรวมผลไม้ (ล้ง) ซึ่งจะทำให้ผลักดันส่งออกผลไม้ได้เร็วขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น