กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.ทบทวนแผนลงทุน 5 ปี (2561-2565) ใหม่จากที่วางไว้ 5 หมื่นล้านบาท หลังปีนี้ตั้งงบไว้ 1 หมื่นล้านบาท โดยเชื่อว่าหลังแยกเป็น PTTOR งบการลงทุนจะเพิ่มขึ้นหลังมีความคล่องตัวในขยายธุรกิจปั๊มน้ำมันและนอนออยล์ ส่วนการเปิดเสรีแอลพีจีในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ปตท.ลั่นรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 และพร้อมคุยกับผู้ค้าที่สนใจเช่าคลังก๊าซฯ ที่เขาบ่อยา
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างจัดทำแผนธุรกิจน้ำมัน 5 ปี (2561-2565) จากเดิมที่วางงบลงทุนไว้ 5 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้ได้วางงบไว้ 1 หมื่นล้านบาท ใช้ไปแล้ว 70-80% ของแผนฯ
พร้อมทั้งวางกลยุทธ์รับมือเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคต ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมัน โดย ปตท.ได้วางแผนปรับตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ปั๊มน้ำมัน ปตท.ไม่ใช่แค่ขายน้ำมันอย่างเดียว แต่ทำให้เป็นที่พักรถพักคน หรือ Life Station เป็นที่รวมตัวของชุมชน (Community Mall) ขณะเดียวกันมีการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) เพิ่มขึ้นเป็น 20 แห่งในสิ้นปีนี้จากปัจจุบันอยู่ที่ 6 แห่ง เน้นกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โดยการแยกธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกออกมาเป็นบริษัท PTTOR เชื่อว่างบการลงทุน 5 ปีจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีความคล่องตัวในการขยายธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) ในต่างประเทศ โดย ปตท.มีแผนจะจับมือกับพันธมิตรในต่างประเทศ
นายอรรถพลกล่าวถึงการเปิดเสรีก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในทุกด้านเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด ขณะเดียวกันก็พร้อมจะหารือกับผู้ค้าก๊าซแอลพีจี ทั้งสยามแก๊ส และมิตซูบิชิ ที่ต้องการเช่าคลังก๊าซแอลพีจีที่เขาบ่อยาของ ปตท. ซึ่งอัตราค่าเช่าจะเป็นการตกลงระหว่าง ปตท.กับผู้ค้าก๊าซแอลพีจี
โดยปัจจุบัน ปตท.มีส่วนแบ่งการตลาดแอลพีจี 38% แต่มั่นใจว่ามีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 แม้ว่าจะมีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากขึ้นอย่างมิตซูบิชิที่จะเจาะตลาดแอลพีจีภาคอุตสาหกรรม โดยไทยมีการนำเข้าแอลพีจีเฉลี่ย 2-4 หมื่นตัน/เดือน โดยในเดือน ก.ค.นี้ ปตท.มีการนำเข้าแอลพีจี 6.6 หมื่นตัน และส่งออกแอลพีจี 5.9 หมื่นตันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชาและลาวที่มีความต้องการใช้แอลพีจีเติบโตมาก ขณะที่พม่าก็มีการใช้โตเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ด้านนายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ได้รับเรือแอลเอ็นจีเที่ยวแรกจากปิโตรนาส จำนวน 137,600 ลูกบาศก์เมตร ณ สถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว มาบตาพุด จ.ระยอง โดย ปตท.และปิโตรนาส ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีระยะยาว 15 ปี ปริมาณการจัดส่ง 1.2 ล้านตันต่อปี เพื่อเสริมความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย ในภาวะที่การผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งภายในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้านเริ่มมีขีดจำกัด นับเป็นโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจแอลเอ็นจีและก๊าซธรรมชาติในอนาคตต่อไปด้วย