“พาณิชย์” เผยข้าวนาปีมีตลาดรองรับ หลังจ่อปิดดีลขายให้ศรีลังกา-บังกลาเทศ

“พาณิชย์” เผยเจรจาขายข้าวให้ศรีลังกา-บังกลาเทศประเทศละ 2 แสนตันใกล้จบ เหลือแค่ตกลงราคา โดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ ก.ย. เผยเป็นข้าวดีต่อข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะมีตลาดรองรับ เหตุเป็นการซื้อข้าวนึ่ง ต้องใช้ข้าวใหม่มาทำ ระบุยังได้เร่งจีนซื้อข้าวจีทูจีแสนตันที่ 5 ด้วย ส่วนฟิลิปปินส์จ่อเปิดประมูลนำเข้าข้าว 2.5 ตัน ไทยเข้าแข่งแน่

นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเจรจาขายข้าวให้ศรีลังกาและบังกลาเทศประเทศละ 2 แสนตันใกล้จะได้ข้อยุติ สามารถตกลงรายละเอียดเบื้องต้นได้แล้ว ยังเหลือแค่การตกลงในเรื่องราคาซื้อว่าจะเป็นราคาเท่าใด เพราะยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะส่งข้าวแบบไหน แบบเอฟโอบีที่ส่งมอบ ณ ท่าเรือของไทย หรือแบบซีไอเอฟที่รวมราคาสินค้า ค่าระวางเรือ และค่าประกันภัย โดยผู้ขายต้องส่งมอบให้ถึงประเทศผู้ซื้อเลย ซึ่งต้องหารือในรายละเอียดต่อไป คาดว่าน่าจะตกลงกันได้ในเร็วๆ นี้ และหากตกลงเรื่องราคาซื้อขายได้แล้ว ตามสัญญาจะเริ่มส่งมอบภายใน 60 วัน หรือเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. 2560 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การขายข้าวให้ศรีลังกาและบังกลาเทศจะส่งผลดีต่อข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2560/61 ที่จะมีตลาดรองรับทันที เพราะทั้งสองประเทศต้องการซื้อข้าวนึ่ง โดยข้าวนึ่งต้องใช้ข้าวเปลือกใหม่ไปอบและสี ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาข้าวเปลือกที่จะปรับตัวสูงขึ้น

“กรมฯ คาดว่าทั้งสองประเทศยังมีความต้องการนำเข้าอีกมากไม่ต่ำกว่าล้านตัน เพราะผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้ง และน้ำท่วม แต่ทั้งสองประเทศไม่ได้ซื้อจากไทยเพียงประเทศเดียว ได้กระจายการซื้อไปยังประเทศอื่นๆ ด้วย ทั้งอินเดียและเวียดนาม รวมถึงไทย เพราะไม่ต้องการให้มีการผูกขาดตลาดข้าวโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ที่น่ายินดีคือ ศรีลังกาได้หันมานำเข้าข้าวจากไทยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 50 ปี” นายกีรติกล่าว

นายกีรติกล่าวว่า สำหรับตลาดข้าวอื่นๆ กรมฯ ได้ทำหนังสือทวงถามไปยังจีนเพื่อให้เร่งรัดการรับมอบข้าวจากไทยแสนตันที่ 5 จากปริมาณที่ทำสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ทั้งหมด 1 ล้านตัน และส่งมอบไปแล้ว 4 แสนตัน ซึ่งการส่งมอบจะเป็นข้าวฤดูกาลใหม่ทั้งหมด ส่วนการเจรจาทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีกับจีนล้านตันที่ 2 คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการเปิดประมูลเป็นการทั่วไปเพื่อนำเข้าข้าวขาว 25% อีกประมาณ 2.5 แสนตัน ซึ่งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้าร่วมประมูล ซึ่งกรมฯ จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปแข่งขันประมูลด้วย