“พาณิชย์” เผยข้าวไทยเป็นขาขึ้นชัดเจน ส่งออก 6 เดือน 5.9 ล้านตัน โต 20% และราคายังปรับตัวดีขึ้นทั้งราคาส่งออกและราคาข้าวเปลือก มั่นใจทั้งปีส่งออกเกิน 10 ล้านตัน อาจทะลุถึง 11 ล้านตันทำสถิติใหม่ก็ได้ ระบุล่าสุดมีลูกค้าติดต่อซื้อเข้ามาอีกเพียบ ส่วนการดูแลผลผลิตข้าวปี 2560/61 ได้ส่งทีมงานลงพื้นที่คุยเกษตรกร โรงสี เพื่อเตรียมมาตรการรับมือแล้ว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดข้าวไทยเป็นขาขึ้น โดยดูได้จากยอดการส่งออกข้าวตั้งแต่ 1 ม.ค.-27 มิ.ย. 2560 ส่งออกได้แล้วปริมาณ 5.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20% เป็นเงินบาทมีมูลค่า 87,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% และเป็นเงินเหรียญสหรัฐมูลค่า 2,535 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16% และประเมินว่าการส่งออกข้าวทั้งปีจะทำได้เกินเป้า 10 ล้านตัน และมีแนวโน้มที่จะทำสถิติใหม่ อาจส่งออกได้สูงถึง 11 ล้านตัน สูงกว่าที่เคยทำสถิติไว้เมื่อปี 2557 ที่ส่งออกได้ 10.97 ล้านตัน
ทั้งนี้ ตลาดข้าวขาขึ้นไม่ใช่ขึ้นเพียงแค่ยอดการส่งออก แต่ราคาก็ปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจุบันราคาส่งออกข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 458 เหรียญสหรัฐ เพิ่มจากปีก่อนที่ตันละ 440 เหรียญสหรัฐ ข้าวนึ่งตันละ 476 เหรียญสหรัฐ เพิ่มจาก 460 เหรียญสหรัฐ และข้าวหอมมะลิตันละ 778 เหรียญสหรัฐ เพิ่มจากตันละ 700 เหรียญสหรัฐ และราคาข้าวเปลือกก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าวเปลือกเจ้าตันละ 8,700-8,900 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 10,000-11,000 บาท
นางอภิรดีกล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกข้าวไทยยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีการติดต่อขอซื้อข้าวไทยเพิ่มขึ้นจากหลายประเทศ เช่น อิรัก ที่เคยเลิกซื้อข้าวไทยเพราะมีปัญหาเรื่องคุณภาพเมื่อ 3 ปีก่อน วันนี้ก็กลับมาซื้อ อิหร่านก็ซื้อ โดยซื้อไปแล้ว 2 แสนตัน และจะซื้อเพิ่มอีก ศรีลังกา มีความต้องการซื้อข้าวขาวปริมาณ 2 แสนตัน โดยกำลังอยู่ระหว่างการประสานติดต่อเพื่อส่งคณะผู้แทนการค้าเข้ามาเจรจากับไทย และบังกลาเทศต้องการซื้อ 2 แสนตัน เป็นข้าวนึ่งและข้าวขาว และกำลังจะส่งคณะผู้แทนมาหารือกับไทยในวันที่ 6-7 ก.ค.นี้ ส่วนการเปิดประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ ไทยก็จับตาดูอยู่ ถ้าเปิดเมื่อไรก็พร้อมที่จะเข้าไปร่วมประมูล ขณะที่สัญญาข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน จะเร่งให้มีการเจรจารับมอบข้าวในส่วนของแสนตันที่ 5 ต่อไป
นอกจากนี้ ไทยยังสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดข้าวกลับคืนมาได้ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ และฮ่องกง ที่ไทยเคยถูกคู่แข่งแย่งส่วนแบ่งตลาดไปในช่วงที่รับจำนำข้าวราคาสูง และทำให้คุณภาพข้าวไทยไม่ดี แต่ตอนนี้ไทยทวงคืนกลับมาได้หมดแล้ว โดยเฉพาะฮ่องกง ขณะนี้ส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 70% แล้ว
นางอภิรดีกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้เตรียมมาตรการรองรับข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2560/61 โดยได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับเกษตรกรและโรงสีเพื่อหารือว่าควรจะปรับปรุงมาตรการในการดูแลราคาข้าวเปลือกอะไรบ้าง หรือต้องการให้ภาครัฐเพิ่มเติมมาตรการอะไร ซึ่งผลการหารือส่วนใหญ่ยืนยันว่ามาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเหมาะสมแล้ว และอยากให้ทำต่อ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรหรือการใช้มาตรการชะลอการขายข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด โดยกระทรวงฯ จะทำการรวบรวมข้อมูล ข้อเสนอทั้งหมด และจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นประเมินว่าข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกหอมมะลิแนวโน้มไม่น่าจะมีปัญหาด้านราคา ยกเว้นข้าวเปลือกเหนียวที่อาจจะมีปัญหาด้านราคา เพราะเกษตรกรมีการเพิ่มการเพาะปลูก หลังจากที่ปีที่แล้วราคาข้าวเหนียวสูงขึ้น ซึ่งอยากจะบอกถึงเกษตรกรว่าขอให้ลดและชะลอการเพาะปลูก เพราะหากปลูกมากเกินไป หากผลผลิตออกมามากก็จะทำให้ราคาตกต่ำได้