“พาณิชย์” ยันไม่นำข้าวดีขายราคาถูก พร้อมโต้เงินทอนหมื่นล้านมีหลักฐานก็ให้ดำเนินคดี อย่าหวังผลซ่อนเร้น

“พาณิชย์” ชี้แจงขายข้าวสต๊อกรัฐตามสภาพ ไม่มีการนำข้าวดีขายในราคาข้าวเข้าอุตสาหกรรม เผยโกดังที่มีปัญหาเคยเปิดระบายปี 59 แต่ผู้ซื้อเสนอราคาต่ำกว่าเกณฑ์เลยไม่ขาย พอนำมาเปิดระบายใหม่เจอว่าบางกองเป็นข้าวเน่า ต้องขายเข้าสู่อุตสาหกรรมยกโกดังป้องกันกระทบผู้บริโภค ย้ำเจ้าของโกดังแม้มีสิทธิ์ประมูลก็ไม่เคยเข้าร่วมประมูล พร้อมโต้เงินทอนหมื่นล้าน ระบุหากมีหลักฐานดำเนินคดีเลย อย่ากล่าวหาลอยๆ เพื่อหวังผลซ่อนเร้น

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวตามสื่อเกี่ยวกับประเด็นการขายข้าวราคาต่ำเกินจริงและความไม่โปร่งใสในการระบายข้าว โดยมีการขายข้าวคุณภาพดีในราคาข้าวที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ซึ่งทำให้รัฐเสียหาย และมีเงินทอนขายข้าว 1 หมื่นล้านบาทว่า กรมฯ ยืนยันว่าการระบายข้าวในคลังสินค้า บจก.ประสิทธิ์ชัยอุบล (โซลาร์ไรซ์) 2011 หลัง 9 ที่มีผู้กล่าวอ้างว่าขายข้าวคุณภาพดีในราคาที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์นั้น จากการตรวจสอบพบว่าข้าวในโกดังดังกล่าวเป็นข้าวตามโครงการรับจำนำข้าว ปี 2556/57 ซึ่งเป็นสัญญาแบบฝากเก็บ โดยเจ้าของคลังต้องเป็นผู้รับผิดชอบคุณภาพและปริมาณข้าวในคลังเป็นข้าวหอมมะลิ มีทั้งหมด 8 กอง ซึ่งมีผลการตรวจสอบถูกต้องตามมาตรฐาน 2 กอง ผิดมาตรฐาน 6 กอง

โดยเมื่อตรวจสอบแล้วได้นำข้าวดังกล่าวออกประมูลขายในการประมูลครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2559 เป็นการประมูลทั่วไปและเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ผลการประมูลปรากฏว่ามีผู้เสนอซื้อในราคากิโลกรัมละ 11.25 บาท ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ราคาขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้จึงไม่ได้รับอนุมัติให้ขาย ต่อมาได้มีการตรวจสอบข้าวอีกครั้ง พบว่าข้าวใน 6 กองที่ผิดมาตรฐาน มี 1 กองที่เป็นข้าวที่เสื่อมคุณภาพ เป็นข้าวเน่า ข้าวขึ้นรา เกาะกันเป็นก้อน มีกลิ่นเหม็น และมีฝุ่น ไม่เหมาะแก่การบริโภคเป็นอย่างยิ่ง ไม่สมควรให้มีการระบายเป็นการทั่วไป จึงกำหนดให้ระบายเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม และได้นำออกประมูลครั้งที่ 23 และมีผู้เสนอราคาซื้อในราคากิโลกรัมละ 6.10 บาท

ทั้งนี้ ในการเปิดประมูลข้าวทั้ง 2 ครั้ง แม้ว่า บจก.ประสิทธิชัยอุบล (โซลาร์ไรซ์) 2011 มีสิทธิประมูล แต่ก็ไม่ปรากฏว่าได้เข้ามาประมูลแต่อย่างใด

นางดวงพรกล่าวว่า ในการดำเนินการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลมิได้นำปัจจัยเรื่องราคาที่จะจำหน่ายได้มาเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพราะหากคำนึงถึงแต่เรื่องราคาที่จะได้รับเพียงอย่างเดียว ก็จะต้องกำหนดราคาขายข้าวที่จะประมูลไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุนที่รับจำนำ คือ ข้าวขาวประมาณตันละ 22,000-23,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ประมาณตันละ 29,000-30,000 บาท แต่ได้คำนึงถึงการลดความเสียหายจากภาระงบประมาณที่ต้องจ่ายเป็นค่าเก็บรักษา ค่าดอกเบี้ย ค่ารมยา ผลกระทบต่อสุขอนามัยต่อมนุษย์และสัตว์ และสต๊อกข้าวที่กดราคาข้าวในตลาดอันมีผลกระทบถึงราคาข้าวที่ชาวนาจะได้รับด้วย

ส่วนการดำเนินการระบายข้าวของรัฐบาลชุดนี้ยืนยันได้ว่ามีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยหากผู้กล่าวหามีหลักฐานว่าเป็นไปโดยมิชอบก็ควรที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ไม่ควรหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างลอยๆ คลุมๆ เครือๆ โดยไม่มีหลักฐานเพื่อหวังผลซ่อนเร้นบางประการ