“พาณิชย์” เตรียมยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองกลางหลังสั่งให้ระงับการขายข้าวเสื่อม เหตุบริษัท ทีพีเค เอทานอล ยื่นฟ้องรัฐว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำต้องชะลออนุมัติขายและระบายข้าวกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 รวม 2.56 ล้านตันไว้ก่อน ย้ำที่ต้องตัดสิทธิบริษัทดังกล่าวเพราะขาดคุณสมบัติตั้งแต่ต้น ระบุการระงับการขายยังส่งผลให้รัฐต้องเสียค่าเช่าโกดังเดือนละ 31 ล้านบาท และกระทบต่อแผนระบายข้าวสต๊อกที่ขีดเส้นไว้ว่าต้องหมดภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ด้วย
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้กรมฯ ในฐานะคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาลจะยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครองกลาง หลังจากที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งระงับกระบวนการประกวดราคา และการทำสัญญากับบุคคลหรือนิติบุคคล รวมทั้งการดำเนินการตามสัญญาในการประกวดราคาจำหน่ายข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเพื่อเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภคไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด หลังจากที่บริษัท ทีพีเค เอทานอล เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง โดยมีผู้ถูกฟ้อง คือ กรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และคณะทำงานดำเนินการระบายข้าว โดยระบุว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเข้าร่วมประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้เสนอซื้อในราคาสูงสุด 74 คลัง ปริมาณรวม 5.25 แสนตัน แต่ไม่ได้รับการอนุมัติขาย
ทั้งนี้ ผลจากคำสั่งดังกล่าวทำให้กรมฯ ต้องชะลอการทำสัญญาซื้อขายข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค ครั้งที่ 2/2560 หรือข้าวกลุ่ม 2 กับผู้ชนะการประมูลรวม 2 ล้านตัน ที่ได้เปิดประมูลไปเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ไว้ก่อน และชะลอการเปิดประมูลข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค หรือข้าวกลุ่ม 3 ปริมาณ 5.68 แสนตัน ครั้งที่ 2/2560 ที่ตามกำหนดเดิมจะเปิดประมูลในวันที่ 17 ก.ค.นี้ไว้ก่อนด้วย หรือรวมปริมาณข้าวกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 ที่จะต้องชะลอการขายปริมาณรวม 2.56 ล้านตัน ซึ่งข้าวในกลุ่มที่ 3 ปริมาณ 5.68 แสนตันนั้น เป็นข้าวที่ครอบคลุมกับข้าวในส่วนที่บริษัท ทีพีเค เอทานอล ยื่นซื้อราคาสูงสุดเข้ามาแต่ไม่ได้อนุมัติขายเพราะถูกตัดสิทธิ์ไปก่อน
นางดวงพรกล่าวว่า การยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครอง จะชี้แจงว่าคณะทำงานฯ ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของการระบายข้าวอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเป็นระบบ โดยในการเปิดประมูล เมื่อมีผู้เสนอราคาซื้อก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ และนำเสนอ นบข.อนุมัติ ส่วนสาเหตุที่ต้องตัดสิทธิ์บริษัท ทีพีเค เอทานอล ในการประมูลข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภคเมื่อวันที่ 28 เม.ย. เนื่องจากตรวจสอบคุณสมบัติย้อนหลังพบว่าบริษัทดังกล่าวขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้เสนอซื้อตั้งแต่ต้น เพราะกรรมการในนิติบุคคล 2 รายเป็นจำเลยที่กระทำผิดสัญญาตามโครงการยกระดับราคาหัวมันสำปะหลัง และศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยคืนกรมฯ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ยอมชำระหนี้
นอกจากนี้ กรมฯ จะชี้แจงต่อศาลปกครองกลางกรณีที่มีการสั่งระงับการระบายข้าวสารสต๊อกรัฐบาล โดยจะทำให้รัฐบาลต้องเสียค่าฝากเก็บสต๊อกข้าวรัฐบาลคิดเป็นเงินเดือนละ 36 บาทต่อตัน หากมีการเก็บข้าวสารสต๊อกรัฐบาลไว้ 5 แสนตันก็จะต้องเสียเงินค่าฝากเก็บประมาณ 31 ล้านบาทต่อเดือน และยังอาจมีผลต่อแผนการระบายข้าวสต๊อกรัฐบาล ทำให้ช้ากว่าแผนเดิมที่คาดว่าจะระบายข้าวได้หมดสต๊อกภายในเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ สถานะสต๊อกในสต๊อกรัฐบาลปัจจุบันมีทั้งหมดประมาณ 2.87 ล้านตัน แบ่งเป็น ข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวคนบริโภคได้ 1.67 แสนตัน ข้าวกลุ่ม 2 ข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนบริโภค 2.14 ล้านตัน และข้าวกลุ่ม 3 หรือข้าวเข้าอุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค 5.68 แสนตัน ถ้าแยกข้าวกลุ่ม 1 ออกมา เหลือเฉพาะข้าวกลุ่ม 2 และกลุ่ม 3 จะเหลืออยู่ 2.7 ล้านตัน และจนถึงขณะนี้สามารถระบายข้าวในสต๊อกได้แล้วกว่า 15.97 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.41 แสนล้านบาท