การรถไฟฯ แจงเหตุผลการเบิกเงินค่าตอบแทนของพนักงานในการปฏิบัติงานนอกเวลา เผยช่วงสถานีหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ระยะทาง 214 กม. อยู่ระหว่างปรับปรุงทาง ผู้รับจ้างต้องทำงานช่วงกลางคืน นายสถานีต้องทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ตลอดเวลาเนื่องจากไม่มีผู้ช่วยฯ เบื้องต้นสั่งชะลอจ่าย ขอตรวจสอบระเบียบ และจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากกรณีที่ได้มีผู้โพสต์เอกสารรายการเบิกเงินค่าตอบแทนการทำงานเกินกำหนดเวลาทำงานปกติของพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บนสื่อสังคมออนไลน์ Facebook อย่างกว้างขวาง โดยเป็นการเบิกเงินค่าตอบแทนฯ ของพนักงานการรถไฟ ตำแหน่งนายสถานีปัตตานี มียอดเงินจำนวน 102,271.04 บาท โดยทำงาน 24 ชั่วโมง 21 วันติดโดยไม่หลับไม่นอนนั้น
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่นายสถานีปัตตานีขอเบิกเงินค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานนอกเวลาจริง เนื่องจากขณะนี้การรถไฟฯ กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงทางช่วงสถานีหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ระยะทาง 214 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางดังกล่าวในช่วงเวลากลางวันจะมีขบวนรถไฟวิ่งให้บริการตลอดเวลา ส่งผลให้ผู้รับจ้างต้องทำงานในช่วงเวลากลางคืน นายสถานีในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่มีความจำเป็นต้องอยู่ standby ตลอดช่วงเวลาที่ผู้รับจ้างเข้าทำงาน เนื่องจากหากมีความเสียหายเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้รับจ้างเข้าทำงานนายสถานีต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
สำหรับสถานีปัตตานี รวมไปถึงสถานีส่วนใหญ่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ปัจจุบันมีนายสถานีปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียงคนเดียว ไม่มีผู้ช่วยนายสถานี ภาระในการ standby ดังกล่าวจึงตกอยู่กับนายสถานีเพียงผู้เดียว ซึ่งการดำเนินการปรับปรุงทางในส่วนนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3-4 เดือน การเบิกจ่ายค่าตอบแทนฯ ในลักษณะนี้จะเป็นการเบิกเฉพาะกิจ ไม่ได้กระทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้สั่งให้ชะลอการเบิกจ่ายค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานนอกเวลาในลักษณะนี้ไปก่อนแล้ว เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายค่าตอบแทนฯ ในลักษณะนี้ว่าทำได้หรือไม่ แค่ไหน อย่างไร และจะกำหนดมาตรการ และสร้างความเข้าใจกับพนักงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รวมไปถึงผู้รับจ้าง เพื่อให้ทั้งความเป็นธรรมแก่ผู้ปฏิบัติงาน และลดภาระค่าใช้จ่ายของการรถไฟฯ ในการเบิกจ่ายค่าตอบแทนฯ ในลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต
