xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออก พ.ค.เพิ่ม 13.21% ขยายตัวสูงสุดรอบ 52 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ส่งออกเดือน พ.ค.มูลค่า 19,944.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.21% ขยายตัวสูงสุดรอบ 52 เดือน ส่วนยอด 5 เดือนมีมูลค่า 93,264.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.21% สูงสุดรอบ 6 ปี “พาณิชย์” มั่นใจการส่งออกทั้งปีทำได้ตามเป้า 5% หลังเศรษฐกิจคู่ค้าฟื้นตัว สินค้าส่งออกและตลาดส่งออกขยายตัวได้ดี เผยบาทแข็งกระทบระยะสั้น มั่นใจ ธปท.เอาอยู่

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกไทยเดือน พ.ค. 2560 มีมูลค่า 19,944.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.21% ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในรอบ 52 เดือน นับจากเดือน ม.ค. 2556 ที่มีอัตราขยายตัว 16.09% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 19,000.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.16% โดยเกินดุลการค้ามูลค่า 944 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการส่งออกในช่วง 5 เดือนของปี 2560 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่า 93,264.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.21% ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี ส่วนการนำเข้าช่วง 5 เดือนมีมูลค่า 88,211.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.24% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 5,053.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

“การส่งออกเดือน พ.ค.ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 52 เดือนเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะมูลค่าการค้าโลกในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 2.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของการค้าโลกที่กลับมามีความแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันยังขยายตัวตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และการส่งออกยังขยายตัวได้ดีในทุกตลาดสำคัญและขยายตัวสูงในทุกกลุ่มสินค้า” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า หากดูตัวเลขภาพรวมการส่งออกในขณะนี้ เชื่อว่าการผลักดันส่งออกทั้งปี 2560 จะขยายตัวในระดับ 5% ได้ตามเป้า เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าสำคัญมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ และราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันอยู่ในระดับดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงจากความไม่ชัดเจนในนโยบายกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ที่คาดว่าเร็วๆ นี้จะมีการประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีกับสินค้าเหล็กออกมา รวมถึงต้องติดตามนโยบายดอกเบี้ยของประเทศคู่ค้าสำคัญ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) และความไม่สงบในบางประเทศที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

ส่วนปัญหาเงินบาทแข็งค่า คาดว่าจะมีผลกระทบในระยะสั้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รับมือได้ แต่ผู้ประกอบการก็ควรทำประกันความเสี่ยง รวมถึงการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบจากต่างประเทศในช่วงที่เงินบาทแข็งค่าจะทำให้ต้นทุนถูกลง

สำหรับการส่งออกรายสินค้า พ.ค. 2560 พบว่าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรส่งออกเพิ่มขึ้น 17.6% สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว เพิ่ม 1.9% ยางพารา เพิ่ม 44.7% อาหาร เพิ่ม 16.4% น้ำตาล เพิ่ม 46.5% เว้นผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ลดลง 14% สินค้าอุตสาหกรรมส่งออกเพิ่ม 12.8% สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่ม เช่น ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 12.5% เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 24.2% เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 13.8% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติก เพิ่ม 16.1% เว้นอัญมณีและเครื่องประดับส่งออกลดลง 42.4% โดยเฉพาะทองคำยังไม่ขึ้นรูปลดลง 72.2% ซึ่งต้องไปหาสาเหตุของการลดลงในกลุ่มอัญมณีในทุกตลาด

ด้านตลาดส่งออก พ.ค. 2560 พบว่า ตลาดหลักส่งออกเพิ่ม 15.2% ได้แก่ สหรัฐฯ เพิ่ม 8.8% ญี่ปุ่น เพิ่ม 25.7% สหภาพยุโรป (15) เพิ่ม 13.2% ตลาดศักยภาพสูง เพิ่ม 20% ได้แก่ อาเซียน เพิ่ม 14.3% แบ่งเป็น อาเซียนเดิม (5) เพิ่ม 14.2% CLMV เพิ่ม 14.3% จีน เพิ่ม 28.3% อินเดีย เพิ่ม 19.8% ฮ่องกง เพิ่ม 30.3% ตลาดศักยภาพรอง เพิ่ม 6.3% เช่น ทวีปออสเตรเลีย เพิ่ม 2.3% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 11.7% ละตินอเมริกา เพิ่ม 13.5% กลุ่มซีไอเอสและรัสเซีย เพิ่ม 60.6% เว้น แอฟริกา ลด 6.1% ตลาดอื่นๆ ลด 62.7% เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ลด 70.7%

ขณะที่สินค้านำเข้าในเดือน พ.ค.2560 พบว่ามีการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 19.80% สินค้าทุนนำเข้าเพิ่มขึ้น 15.59% สินค้าวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป นำเข้าเพิ่ม 22.20% สินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งนำเข้าเพิ่ม 14.58% เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น